ตลาดร่มหุบเป็นอีกหนึ่งตลาดของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวเยี่ยมชม ด้วยความมีเอกลักษณ์ของตลาดที่เมื่อรถไฟวิ่งผ่าน บรรดาพ่อค้าแม่ค้าจะเก็บร้านเพื่อให้รถไฟผ่านโดยการหุบร่มที่กางไว้อย่างรวดเร็วเพราะพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงร้านค้าขายของกันติดกับข้างรางรถไฟ

ตลาดร่มหุบตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟแม่กลอง ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม ตลาดเปิดขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น.

หากต้องการมาเที่ยวชมดูตลาดร่มหุบในเวลาที่รถไฟวิ่งผ่านสามารถมาตามตารางเวลารถไฟซึ่งวิ่งผ่านตลาดร่มหุบวันละ 8 รอบ คือ 06.20, 08.30, 09.30, 11.10, 11.30, 14.30, 15.30 และ 17.40 น.

การเดินทางมาที่ตลาดร่มหุบ แม่กลอง

โดยการเดินทางโดยรถไฟไปที่ตลาดร่มหุบ แม่กลองนั้น ต้องใช้การเดินทาง 3 ต่อด้วยกันคือ

เริ่มจากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ไปที่ สถานีรถไฟมหาชัย

จากสถานีรถไฟมหาชัย เดินไปที่ท่าเรือมหาชัย นั่งเรือข้ามฟากไปยังท่าเรือท่าฉลอม แล้วเดินไปที่สถานีรถไฟบ้านแหลม

จากสถานีรถไฟบ้านแหลม ไปยัง สถานีรถไฟแม่กลอง ตลาดร่มหุบ

ตารางการเดินรถไฟจากสถานีต้นทางวงเวียนใหญ่ – สถานีรถไฟมหาชัย มีตั้งแต่เวลา 5.30 น. – 20.10 น. มีทั้งหมด 17 รอบด้วยกัน ระยะห่างกัน 40-50 นาทีต่อขบวน ซึ่งจะเริ่มจากสถานีวงเวียนใหญ่, ตลาดพลู, คลองต้นไทร, จอมทอง, วัดไทร, วัดสิงห์, บางบอน, การเคหะ, รางสะแก, รางโพธิ์, สามแยก, พรหมแดน, บางน้ำจืด, คอกควาย, บ้านขอม, คลองจาก และสถานีปลายทางมหาชัย

ทริปนี้เราเดินทางไปเที่ยวที่ตลาดร่มหุบในวันอาทิตย์ เดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส มาลงที่สถานีวงเวียนใหญ่ จากนั้นก็นั่งวินมอเตอร์ไซด์ไปที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่

มาถึงที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ซึ่งเป็นสถานีต้นทางวงเวียนใหญ่-มหาชัย ในเวลา 8.10 น. ซื้อตั๋วรถไฟไปที่สถานีรถไฟมหาชัยในรอบเวลา 8.35 น. ค่าบริการรถไฟ 10 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก็ไปถึงที่สถานีรถไฟมหาชัย ในเวลา 9.28 น.

จากสถานีมหาชัยเดินออกมาจะเจอตลาดสดมหาชัย จากนั้นเดินตรงไปทางขวามือจนเกือบสุดทางจะเห็นสวนสาธารณะ แล้วเดินไปทางซ้ายมือไปที่ท่าเรือมหาชัย เพื่อนั่งเรือข้ามฟากไปที่ท่าเรือท่าฉลอม จ่ายค่าเรือข้ามฟาก 3 บาท นั่งเรือไม่นานก็มาถึงที่ท่าเรือท่าฉลอม

ผ่านตลาดสดมหาชัย มีอาหารทะเลสดๆ และแบบแห้งขายเยอะมาก

จุดขึ้นเรือข้ามฟากจากท่าเรือมหาชัย – ท่าเรือท่าฉลอม

เมื่อมาถึงที่ท่าเรือท่าฉลอม เดินออกมาจะเจอป้ายไปที่สถานีรถไฟบ้านแหลม เดินไปตามป้ายจนไปถึงป้ายวัดแหลมสุวรรณาราม

จากป้ายบอกทางสถานีรถไฟบ้านแหลม-แม่กลอง เดินตรงไปประมาณ 500 เมตรจนถึงป้ายวัดแหลมสุวรรณาราม แล้วเลี้ยวขวา จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายอีกทีก็จะเจอสถานีรถไฟบ้านแหลม

จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วไปสถานีรถไฟแม่กลองในรอบ 10.10 น. ค่าตั๋วรถไฟ 10 บาท ถึงสถานีแม่กลองในเวลา 11.10 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงไปถึงสถานีรถไฟแม่กลอง ตลาดร่มหุบ

สถานีรถไฟบ้านแหลม – สถานีรถไฟแม่กลอง มีรถไฟให้บริการ 4 รอบขบวนด้วยกันคือรอบ 7.00 น. 9.30 น. 13.00 น. และ 16.00 น.

เมื่อรถไฟมาถึงที่ตลาดร่มหุบ รถไฟก็จะส่งสัญญาณแตรเตือนและประกาศ พวกพ่อค้าแม่ค้าก็พากันเก็บร้านอย่างรวดเร็วเอาร่มที่เคยกางปิดรางทางเดินรถไฟออก จากนั้นรถไฟก็เคลื่อนผ่านตลาดไปอย่างช้าๆ อย่างระมัดระวัง โดยที่สองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มายืนชมความ unseen ของรถไฟ รถไฟขบวนที่เรานั่งมาถึงที่สถานีปลายทางแม่กลองในเวลา 11.10 น.

เมื่อขบวนรถไฟที่เรานั่งมาถึง จากนั้นอีกประมาณ 20 นาทีรถไฟคันเดิมก็เคลื่อนออกจากสถานีรถไฟแม่กลอง เดินทางกลับไปที่สถานีรถไฟบ้านแหลม คราวนี้เราก็ได้เห็นความ unseen ของขบวนรถไฟที่ที่วิ่งผ่านตลาดร่มหุบ

นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเยอะมากที่ตลาดร่มหุบ

เดินเที่ยวชมที่ตลาดร่มหุบในเมืองแม่กลองแล้ว จากนั้นเราก็เดินทางไปเที่ยวต่อที่ตลาดน้ำอัมพวา ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากโดยใช้บริการรถสองแถว สมุทรสงคราม โรงเจ-อัมพวา ซึ่งจอดอยู่หน้าร้าน 7-11 ฝั่งตรงข้ามตลาดร่มหุบ ค่ารถ 10 บาท ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็มาถึงที่ตลาดน้ำอัมพวา

นั่งรถสองแถวมาลงที่อัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ แล้วเดินลัดเลาะเข้าไปในตลาดอัมพวา

ขากลับจากตลาดน้ำอัมพวาเราเดินไปขึ้นรถสองแถวที่ถนนเส้นหลักด้านหน้าตลาด ฝั่งหน้าธนาคารกรุงเทพฯ กลับไปที่ตลาดร่มหุบเพื่อขึ้นรถไฟรอบ 15.30 น. เพื่อเดินทางกลับไปยังสถานีรถไฟบ้านแหลม

เรามาถึงสถานีรถไฟบ้านแหลมในเวลา 16.30 น. จากนั้นก็นั่งเรือข้ามฟากกลับมาที่ท่าเรือมหาชัย และไปซื้อตั๋วรถไฟกลับไปที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่รอบ 17.35 น. นั่งรถไฟอีก 1 ชั่วโมงก็มาถึงปลายทางสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ในเวลา 18.26 น. รถไฟตรงเวลามาก จบทริป 1 วันเที่ยวตลาดร่มหุบ แม่กลอง และตลาดน้ำอัมพวา

ตลาดน้ำเป็นวัฒนธรรมของคนไทยที่มีเอกลักษณ์ ที่อยู่คู่วิถีคนไทยที่อยู่ริมแม่น้ำมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งมีเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาตินิยมมาท่องเที่ยวเพราะอยากมาสัมผัสกับวิถีดั้งเดิมของความเป็นไทยและด้วยความมีเอกลักษณ์ของสินค้าประจำถิ่นของที่นั้นๆ โดยสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นของชาวบ้าน ชาวสวนในระแวกนั้นซึ่งมีทั้ง ผัก ผลไม้ ต้นไม้ สินค้าโอทอป ประจำตำบลต่างๆ โดยชาวบ้านจะนำสินค้าที่มีและพายเรือมาขาย

ตลาดน้ำใกล้ๆ กรุงเทพฯ ที่นักท่องเที่ยวสามารถไปท่องเที่ยวได้ถึงแม้จะไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ได้แก่

1. ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
2. ่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
3. ตลาดน้ำอัมพวา
4. ตลาดเกาะเกร็ด
5. ตลาด อ.ต.ก.

1. ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งตั้งอยู่ที่ ต.บางกะเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทปราการ เปิดทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 8.00-16.00 น. เป็นตลาดขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงในคุ้งบางกระเจ้า ซึ่งเป็นตลาดน้ำที่แสดงถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มีความผูกพันอย่างลึกซื้งกับลำคลองและป่าจาก คนในชุมชนได้ร่วมกันจัดตั้งตลาดน้ำบางน้ำผึ้งขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่จำหน่าย สินค้าพื้นบ้าน สร้างอาชีพ และรายได้กลับคืนให้ชุมชน เป็นตลาดที่มีของกิน ของใช้ และอาหารพื้นเมืองจำหน่ายอยู่เยอะมาก

ตอบโจทย์ทุกความต้องการ กับบัตร KTC PROUD เป็นทั้งบัตรกดเงินสด และบัตรผ่อนสินค้า 0% นานสูงสุด 24 เดือน
สนใจคลิกเลย
https://cl.accesstrade.in.th/0021140011q8

การเดินทางมาที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง เดินทางโดยใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ซึ่งเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว โดยนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว มาลงที่สถานีบางนา เลือกออกทางออกที่ 2 (วัดบางนาใน) เมื่อลงมาจากสถานีบีทีเอส นั่งวินมอร์เตอร์ไซด์ ไปที่ท่าเรือวัดบางนานอก (หรือแจ้งว่าไปท่าเรือข้ามฟากไปบางกระเจ้า) ค่าบริการ 20 บาท แล้วต่อเรือข้ามฟากไปบางกระเจ้า ค่าเรือ 4 บาท/เที่ยว จากนั้นจะเช่าจักรยานปั่นไป หรือ นั่งวินมอเตอร์ไซด์ไปก็ได้ เมื่อออกจากวัดบางน้ำผึ้งนอกให้เลี้ยวซ้าย ปั่นไปเรื่อยๆ ก็จะเจอตลาดบางน้ำผึ้ง

1 DAY TRIP เดินทางเที่ยวคุ้งบางกระเจ้า (The Best Urban Oasis of Asia) ไปกับรถไฟฟ้า BTS

2. ตลาดน้ำคลองลัดมะยม

ตลาดน้ำคลองลัดมะยม เป็นตลาดน้ำตั้งอยู่ในเขตตลิ่งชัน เป็นตลาดริมคลอง มีพื้นที่ขนาดกว้างขวาง บรรยากาศสบายๆ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ตลาดน้ำคลองลัดมะยมเปิดให้บริการทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลาเปิดปิด 8.00-17.00 น. ตั้งอยู่ที่ถนนบางระมาด แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร (ช่วงถนนบางระมาด 6)

วิธีการเดินทางมาตลาดน้ำคลองลัดมะยมก็มาได้ง่ายๆ โดยการเดินทางด้วย BTS และ MRT

ถ้านั่ง BTS ให้ลงสถานี “บางหว้า” แล้วนั่งแท็กซี่ต่อเข้ามา ค่ามิเตอร์จะประมาณ 80 บาท หรือ ถ้านั่ง MRT สามารถลงได้ที่ “สถานีบางไผ่,สถานีบางหว้า และ สถานีเพชรเกษม48” ได้ จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่อไป ค่าแท็กซี่อยู่ที่ประมาณ 80 บาทเช่นกัน สามารถเลือกเดินทางได้ตามสะดวก

พาเที่ยวตลาดน้ำในกรุงเทพฯ ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม (Ladmayom Floating Market) เดินทางง่ายๆ ด้วย MRT และ BTS

3. ตลาดน้ำอัมพวา

ตลาดน้ำอัมพวา (Amphawa Floating Market) ถือว่าเป็นตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นที่นิยมของทั้งนักท่องเที่ยวคนไทยและคนต่างชาติ เปิดทุกวัน เสาร์, อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.30 น. จุดเด่นที่มีชื่อเสียงเมื่อมาเยือนตลาดน้ำอัมพวาคือ ทานอาหารทะเลสดๆ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา และนั่งเรือไหว้พระ นั่งเรือชมหิ่งห้อยในตอนเย็น

เที่ยวตลาดน้ำอัมพวา (Amphawa Floating Market) กินกุ้ง สวนลิ้นจี่ ชมหิ่งห้อย

การเดินทางมาตลาดน้ำอัมพวา ที่นิยมของนักท่องเที่ยวเพื่อให้ซึมซับกับบรรยากาศมากที่สุดก็คือ การเดินทางด้วยรถไฟ เพราะจะได้ชมตลาดร่มหุบไปด้วย ซึ่งเป็นตลาดที่มีชื่อเสียงและ เป็น Unseen Thailand หากต้องการเดินทางด้วยการรถไฟ ให้ไปขึ้นรถไฟที่สถานีวงเวียนใหญ่ แล้วนั่งไปลงที่สถานีมหาชัย (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ) จากนั้นนั่งเรือข้ามฟากไปต่อรถไฟที่สถานีบ้านแหลม เพื่อ ไปสถานีแม่กลอง (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)

หรือ เดินทางด้วยบริการรถตู้สาธารณะ โดยไปขึ้นรถตู้สาธารณะที่สถานีสายใต้ใหม่ รถกรุงเทพฯ – ดำเนินสะดวก แล้วมาลงที่ตลาดน้ำอัมพวาก็สะดวกเช่นกัน

4. ตลาดเกาะเกร็ด

ตลาดเกาะเกร็ด ตั้งอยู่ที่ ต.เกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนนทบุรี มีตลาดเกาะเกร็ด ซึ่งเป็นเกาะแม่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นที่อยู่ของชาวมอญ เปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลาประมาณ 10.00 น. -18.00 น. สินค้าที่ขายส่วนมากจะเป็นเครื่องปั้นดินเผา ขนมไทย ยาสมุนไพรต่างๆ เสื้อผ้า และอาหารพื้นถิ่น ฯลฯ

เที่ยวเกาะเกร็ด ชุมชนชาวมอญ จังหวัดนนทบุรี เที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพฯ พร้อมวิธีเดินทาง (Kohkred Nonthaburi)

การเดินทางมาเกาะเกร็ด สามารถเลือกเดินทางมาได้ทั้งรถเมย์ สายที่ผ่าน ท่าน้ำปากเกร็ด ได้แก่สาย 103,104,150,166,32,356,505,52 และ รถตู้ประจำทาง ปลายทางตลาดปากเกร็ด หรือแท็กซี่ เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ จากตลาดปากเกร็ด เข้าซอย แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 4 สังเกตุจะเห็นห้างเทสโก้โลตัสอยู่หน้าซอย และมีวินมอเตอร์ไซด์จอดอยู่ เข้าไปในซอย แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 4 ตรงมาที่วัดสนามเหนือ นั่งเรือข้ามฟากไปที่เกาะเกร็ด

5. ตลาด อ.ต.ก.

ตลาด อ.ต.ก. เป็นตลาดสดที่เต็มไปด้วยผัก ผลไม้ อาหารสด อาหารปรุงสุก และอาหารอื่นๆ มากมาย และสำนักข่าวใหญ่ของต่างประเทศอย่าง CNN ก็ทำการสำรวจตลาดสดทั่วโลก และมีผลสำรวจออกมาว่า ตลาดสด อ.ต.ก. ใน กรุงเทพมหานคร ติดอันดับ 1 ใน 10 ตลาดสดที่ดีที่สุดในโลก นอกจากนี้แล้วตลาด อ.ต.ก. ยังมีโซนของตลาดน้ำอยู่ด้านหลังตลาดสดอีกด้วย ซึ่งขายสินค้าโอทอปของเกษตรกรของแต่ละจังหวัด โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง

https://tiewgan.com/travel-ortorkor-market/

วิธีการเดินทางมาที่ตลาด อ.ต.ก. การเดินทางมาตลาด อ.ต.ก. โดยรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRTสายสีน้ำเงิน) โดยมาลงที่สถานีกำแพงเพชร เลือกทางออกที่ 3 ( BL12 ) เดินมาสุดทาง ขึ้นบันไดเลื่อนมา ออกมาทางขวามือจะเจอตลาด อ.ต.ก.

ตลาดน้ำอัมพวา (Amphawa Floating Market) ถือว่าเป็นตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นที่นิยมของทั้งนักท่องเที่ยวคนไทยและคนต่างชาติ ด้วยความที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย เป็นตลาดน้ำ ที่มีแม่ค้า พายเรือมาขาย และร้านค้าอีกมากมายบนฝั่ง จุดเด่นที่มีชื่อเสียงเมื่อมาเยือนตลาดน้ำอัมพวาคือ ทานอาหารทะเลสดๆ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา และที่โดดเด่นก็คือ กุ้งแม่น้ำจากธรรมชาติสดๆ จากแหล่งน้ำคลองอัมพวา และนั่งเรือไหว้พระ นั่งเรือชมหิ่งห้อยในตอนเย็น บรรยากาศสองฝั่งคลองสีเขียวสดชื่นไปด้วยต้นไม้ ต้นจาก สวนส้มโอ สวนลิ้นจี่ และสวนมะพร้าวกะทิ อากาศสดชื่น คงความมีเสน่ห์ของบ้านริมคลอง

เวลาเปิดทำการตลาดน้ำอัมพวา

เปิดทุกวัน เสาร์, อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.30 น.

1. การเดินทางที่นิยมของนักท่องเที่ยวเพื่อให้ซึมซับกับบรรยากาศมากที่สุดก็คือ การเดินทางด้วยรถไฟ เพราะจะได้ชมตลาดร่มหุบไปด้วย ซึ่งเป็นตลาดที่มีชื่อเสียงและ เป็น Unseen Thailand หากต้องการเดินทางด้วยการรถไฟ ให้ไปขึ้นรถไฟที่สถานีวงเวียนใหญ่ แล้วนั่งไปลงที่สถานีมหาชัย (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ) จากนั้นนั่งเรือข้ามฟากไปต่อรถไฟที่สถานีบ้านแหลม เพื่อ ไปสถานีแม่กลอง (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)

การเดินทางมาตลาดน้ำอัมพวา

จากสถานีบ้านแหลมเพื่อไปสถานีแม่กลอง มีรอบรถไฟทั้งหมด 4 รอบด้วยกัน คือ

รอบออกจากสถานีบ้านแหลมไปสถานีแม่กลอง รอบ 7.30 – 8.30 น.

รอบออกจากสถานีบ้านแหลมไปสถานีแม่กลอง รอบ 10.10 – 11.10 น.

รอบออกจากสถานีบ้านแหลมไปสถานีแม่กลอง รอบ 13.30 – 14.30 น.

รอบออกจากสถานีบ้านแหลมไปสถานีแม่กลอง รอบ 16.40 -17.40 น.

2. หากขับรถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าขับตรงไปทางถนนพระรามสอง ขับตรงไปผ่านจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อสิ้นสุดเขตจังหวัดสมุทรสาคร ขับตรงไปเรื่อยๆ จะเจอป้ายตลาดน้ำอัมพวาและตลาดน้ำดำเนินสะดวก(ขับไปเส้นทางเดียวกัน) ขับรถขึ้นสะพานกลับรถตามป้ายบอกทาง ทางเลี่ยงเมืองสมุทรสงคราม จากทางกลับรถเลี่ยงเมือง ขับไปอีกประมาณ 600 เมตร เจอทางเลี้ยว ให้เลี้ยวซ้าย มีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ ขับตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ ก็จะเจอตลาดน้ำอัมพวา เข้าไปจอดรถที่วัดอัมพวันเจติยาราม มีค่าบำรุงวัด 30 บาทจอดได้ตลอดวัน

3. หากมารถตู้ให้ไปขึ้นรถที่สถานีสายใต้ใหม่ รถกรุงเทพฯ – ดำเนินสะดวก แล้วมาลงที่ตลาดน้ำอัมพวา

ทำอะไรบ้างเมื่อมาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา

1. สถานที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาก็คือ เดินช้อป ชิม เที่ยวที่ตลาดน้ำอัมพวา กินอาหารทะเลสดๆ กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ

ตอบโจทย์ทุกความต้องการ กับบัตร KTC PROUD เป็นทั้งบัตรกดเงินสด และบัตรผ่อนสินค้า 0% นานสูงสุด 24 เดือน
สนใจคลิกเลย
https://cl.accesstrade.in.th/0021140011q8

• 

2. นั่งเรือชมวิถีชีวิตริมคลองรอบๆ อัมพวา ในตอนกลางวัน ไปติดทอง ขอพร ไหว้พระ ในอำเภออำพวา มีวัดตั้งอยู่เยอะมาก และมีวัดซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งมีอายุมากกว่า 200 กว่าปีอยู่หลายวัดด้วยกัน เช่น วัดอัมพวันเจติยาราม วัดบางแคใหญ่ วัดภุมรินทร์กุฎีทอง (วัดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1)

กุฎิทองหลังนี้สร้างโดย ท่านทอง ท่านสั้น ผู้เป็นบิดามารดาของสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ (เดิมชื่อนาค) พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2325 และได้บูรณะใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2431

และวัดที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดคือ วัดบางกุ้ง(วัดโบสถ์ปรกโพธิ์) ซึ่งเป็นวัดที่มีจุดเด่นที่พระอุโบสถ ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ ปกคลุมทั้งอาคารด้วยรากของต้นโพธิ์

ราคาค่าเรือหากแชร์ไปกับคนอื่นๆ ราคาคนละ 50 บาท หรือหากจะเหมาเรือไปส่วนตัว ราคาประมาณ 300-500 แล้วแต่ตกลงกับเจ้าของเรือแต่ละลำ

3. นั่งเรือชมหิ่งห้อยในตอนเย็น ราคาค่าเรือหากแชร์กับคนอื่นๆ ราคาคนละ 60 บาท เริ่มเวลา 18.00 น.

4. นอนโฮมสเตย์ สัมผัสวิถีชุมชม มีสวนส้มโอ สวนมะพร้าวกะทิ สวนลิ้นจี่ ซึ่งจะออกผลเยอะในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม

5. ช้อปของฝากที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งได้แก่ ปลาทูหน้างอคอหัก อาหารทะเลแห้ง น้ำตาลมะพร้าว น้ำผึ้งสดจากดอกลิ้นจี่ ส้มโอ ลิ้นจี่ ขนมไทยโบราณต่างๆ เป็นต้น