การไหว้พระธาตุ หรือพระบรมสารีริกธาตุ สำหรับพุทธศาสนิกชนคนไทยแล้ว หากมีโอกาสควรไปกราบไหว้สักการะพระธาตุประจำปีเกิดให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะมีความเชื่อกันว่าการได้มากราบไหว้ขอพรพระธาตุประจำปีเกิดของตน เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
ปีนักษัตรมี ทั้งหมด 12 นักษัตร ได้แก่ 1.ชวด(หนู) 2.ฉลู(วัว) 3.ขาล(เสือ) 4.เถาะ(กระต่าย) 5.มะโรง(งูใหญ่) 6.มะเส็ง(งูเล็ก) 7.มะเมีย(ม้า) 8.มะแม(แพะ) 9.วอก(ลิง) 10.ระกา(ไก่) 11.จอ(หมา) 12.กุล(หมู)
การเดินทางครั้งนี้ได้มาเที่ยวเชียงใหม่จึงได้มีโอกาสมากราบสักการะขอพรองค์พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี ที่วัดเกตการาม ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ริมแม่น้ำแม่ปิง ซึ่งเป็นพระธาตุสำหรับคนเกิดปีจอ ซึ่งตรงกับปีนักษัตรของเรา ปีนักษัตรของคนเกิดปีจอได้แก่คนที่เกิดในปี พ.ศ. 2465 พ.ศ. 2477 พ.ศ. 2489 พ.ศ. 2501พ.ศ. 2513 พ.ศ. 2525 พ.ศ. 2537 พ.ศ. 2549 พ.ศ. 2561 พ.ศ. 2573 พ.ศ. 2585 และ พ.ศ. 2597 ปีจอ เป็นชื่อปีที่ 11 ของรอบปีนักษัตร มีสัญลักษณ์เป็นหมา
ตามพุทธประวัติกล่าวไว้ว่า พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีนั้น ตั้งอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า และตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชนเถรวาท จุฬามณีเจดีย์ เป็นเจดีย์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ที่บรรจุพระจุฬาพระโมลีและพระเขี้ยวแก้วของพระโคตมพุทธเจ้า และด้วยที่พระธาตุเจดีย์องค์นี้คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเดินทางไปถึงได้ จึงสามารถมาบูชา พระเจดีย์ ที่วัดเกตการาม จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีชื่อพ้องกับพระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์แทนได้นั่นเอง
พระบรมสารีริกธาตุ เรียกโดยย่อว่าพระบรมธาตุ คือ พระอัฐิของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ได้ทรงอธิษฐานไว้ก่อนปรินิพพาน ให้คงเหลือไว้หลังจากการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน
ชาวพุทธเชื่อว่าพระบรมสารีริกธาตุ เป็นวัตถุแทนองค์พระบรมศาสดาที่ทรงคุณค่าสูงสุดในศาสนาพุทธ จึงนิยมกระทำการบูชาองค์พระบรมสารีริกธาตุ
สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธองค์ อยู่ในพระราชอุทยานของเจ้ามัลละฝ่ายเหนือแห่งกุสินารา สวนป่าไม้สาละ ป่าแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญญวดี เป็นป่าไม้สาละร่มรื่น
พระองค์ทรงเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ระหว่างใต้ต้นสาละคู่ ณ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ ในปัจฉิมยามแห่งราตรีวิสาขปรุณมีเพ็ญเดือน 6 ขณะมีพระชนมายุ 80 พรรษา
ประวัติวัดเกตการาม(วัดเกศ)
วัดเกตเป็นวัดเก่าแก่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ประวัติวัดบอกว่าสร้างในปี พ.ศ. 1921 ในสมัยกษัตริย์ราชวงศ์มังราย พระธาตุวัดเกตเป็นที่ประดิษฐานของพระเกศาธาตุ ชาวบ้านเรียกว่า พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี ถือเป็นการจำลองพระเกศแก้วจุฬามณีจากสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มาไว้ในโลกมนุษย์ ดังนั้นจึงสร้างให้ยอดพระธาตุเอียง เพื่อมิให้ยอดชี้ขึ้นไปตรงกับองค์ที่อยู่บนสวรรค์เพราะถือว่าเป็นการไม่สมควร นอกจากนี้ยังมีความเชื่อตามตำราโบราณที่ว่าคนเราที่เกิดมาในโลกนี้เมื่อสิ้นอายุขัย ดวงวิญญาณจะไปสถิตอยู่ตามพระธาตุเจดีย์ต่างๆ ตามปีที่เกิด และขณะที่ยังมีชีวิตอยู่หากได้ไปนมัสการพระธาตุประจำปีเกิด ถือได้ว่าเป็นบุญกุศลและทำให้อายุมั่นคงยืนยาว สำหรับพระธาตุวัดเกตถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีจอ และพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
บทสวดบูชา นมัสการพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี
(กล่าวนะโม 3 จบ)
ตาวะติงสายะ ปุรัมเม เกสะจุฬามะณี สะรีระปัพพะตา ปูชิตา สัพพะเทวานัง
ตัง สิระสาธาตุ อุตตะมัง อะหังวันทามิ สัพพะทา. (3 จบ)
การเดินทางไปวัดเกตการาม
วัดเกตการาม ตั้งอยู่บนถนนเจริญราษฎร์ หากมาจากตัวเมืองก็ข้ามสะพานนวรัฐ เลี้ยวซ้ายตรงคอสะพานแล้วขับเลียบแม่น้ำปิงโดยจะผ่านร้านอาหารกู๊ดวิว ขับรถตรงไปก็จะพบสามแยกให้เลี้ยวขวาตามถนนเข้าไปก็จะพบ วัดเกตการามหากไม่เลี้ยวขวาก็หาที่จอดริมถนน แล้วเดินเข้าประตูเล็กที่อยู่ติดกับถนนเจริญราษฎร์ได้เลย (ประตูเล็กจะอยู่ตรงกับสะพานเดินข้ามน้ำปิง มองเห็นวิวแม่น้ำปิงและตลาดวโรรสอยู่ฝั่งตรงข้าม)