Tag Archives: พระธาตุ

การเดินทางไปพระธาตุพนม จ.นครพนม โดยรถโดยสารประจำทาง

พระธาตุพนม ตั้งอยู่ที่ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดให้เข้าสักการะพระธาตุพนมได้ทุกวันทำการตั้งแต่เวลา 6.00 – 20.00 น. พระธาตุพนม เป็นพุทธเจดีย์ที่บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของภาคอีสาน เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาทั้งของคนไทยและคนลาว มีรูปทรงสี่เหลี่ยม ประดับตกแต่งด้วยศิลปะลวดลายอันวิจิตร มีความประณีตงดงามทั้งองค์ เป็นพระธาตุปีเกิดสำหรับคนเกิดปีวอกและคนที่เกิดวันอาทิตย์

พระธาตุพนม
พระธาตุพนม

การเดินทางจากสนามบินนครพนม

จากสนามบินนครพนม สามารถใช้บริการรถตู้โดยสาร นครพนม – มุกดาหาร ของบริษัทนครโคราช จำกัด ซึ่งจอดอยู่ด้านหน้าสนามบินนครพนม เดินทางไปที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร รถตู้จะให้บริการตามเวลาเที่ยวบินที่มาถึงที่สนามบินนครพนม เมื่อเดินออกมาจากประตูสนามบินก็จะเจอรถตู้จอดอยู่ด้านหน้าสนามบิน โดยรถตู้บางคันจะมีสติกเกอร์ของสายการบินติดอยู่ที่รถตู้ ราคาค่าตั๋วโดยสารอยู่ที่ 200 บาท รถตู้จะไปส่งถึงหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ซึ่งสะดวกมากสำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว หรือไม่ได้เช่ารถขับ

วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร

ส่วนการเดินทางกลับจากวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร กลับเข้าเมืองนครพนม แนะนำว่าให้มารอรถที่ฝั่งตรงข้ามห้างโลตัส ธาตุพนม เพราะจะมีรถตู้โดยสารหลายเส้นทางเข้าเมืองนครพนมเยอะกว่ารอที่หน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ค่าตั๋วขากลับเข้าเมืองนครพนม ราคา 50 บาท

เส้นทางที่ไปนมัสการพระธาตุพนม ยังมีพระธาตุสำคัญที่อยู่บนเส้นทางเดียวกันคือ พระธาตุมรุกขนคร และพระธาตุเรณู หากมีเวลาไม่ควรพลาดที่จะไปเที่ยวชมและกราบไหว้สักการะองค์พระธาตุมรุกขนครและองค์พระธาตุเรณู

รถตู้นครพนม - มุกดาหาร จอดหน้าสนามบินนครพนม
รถตู้นครพนม – มุกดาหาร จอดหน้าสนามบินนครพนม
ค่าตั๋วโดยสาร 200 บาท ขาไปพระธาตุพนม
ค่าตั๋วโดยสาร 200 บาท ขาไปพระธาตุพนม

ประวัติพระธาตุพนม

ในตำนานพระธาตุพนมกล่าวไว้ว่า องค์พระธาตุพนมสร้างครั้งแรกในราว พ.ศ. 8 ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร ที่กำลังเจริญรุ่งเรือง โดยมีท้าวพญาทั้ง 5 อันมีพญาศรีโคตบูร เป็นต้น และพระอรหันต์ 500 องค์ อันมีพระมหากัสสปะเถระเป็นประมุข ลักษณะของการก่อสร้างในสมัยแรกนั้น ใช้ดินดิบก่อขึ้นเป็นรูปเตาสี่เหลี่ยม แล้วเผาให้สุกทีละหลัง กว้างด้านละสองวา สูงสองวา ข้างในเป็นโพรง มีประตูเปิดทั้งสี่ด้าน

พระธาตุพนม
พระธาตุพนม

เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็ได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระมหากัสสปะเถระนำมาจากประเทศอินเดีย มาประดิษฐานไว้ข้างใน แล้วปิดประตูทั้งสี่ด้าน แต่ยังปิดไม่สนิททีเดียว ยังเปิดให้คนเข้าไปสักการะบูชาได้อยู่บางโอกาส ในตำนานพระธาตุพนมบอกว่า “ยังมิได้ฐานปนาให้สมบูรณ์” นี้ก็หมายความว่า ยังมิได้ปิดประตูพระธาตุให้มิดชิดนั่นเอง พึ่งมาสถาปนาให้สมบูรณ์ในราว พ.ศ.500

พระธาตุพนม
พระธาตุพนม
พระธาตุพนม
พระธาตุพนม

ในทุกๆปีจะมีการจัดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ซึ่งถือเป็นประเพณีสำคัญยิ่งของพุทธศาสนิกชนทั้งสองฝั่งโขง ที่ถือปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่โบราณ เพราะเชื่อว่าถ้าใครได้มีโอกาสมากราบไหว้พระธาตุพนม หนึ่งในพระสถูปมหาเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์ บรรจุพระอุรังคธาตุหรือกระดูกส่วนหน้าอกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมกับถวายเครื่องสักการะบูชาหน้าองค์พระธาตุพนม จะทำให้มีจิตใจที่สงบเยือกเย็น และถ้ายังไม่บรรลุนิพพานในชาตินี้ เมื่อตายไปวิญญาณจะได้ไปสู่สรวงสวรรค์ งานนมัสการองค์พระธาตุพนมเริ่มจัดตั้งแต่ วันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี

พระธาตุพนม
พระธาตุพนม

คำนมัสการพระธาตุพนม

ตั้งนะโม (3จบ)

ปุริมายะ ทักขิณายะ ปัจฉิมายะ อุตตะรายะ เหฏฐิมายะ อุปะริมายะ ทิสายะ กะปะณะคิริสะมิง ปัพพะเต มหากัสสะเปนะ ฐาปิตัง พุทธอุรังคะธาตุง สิระสา นะมามิ สุวัณณะระชะตัง ระตะนัง ปะณีตัง พุทธะ อุรังคะเจติยัง อะหัง วันทามิ สัพพะทาฯ

คำไหว้พระธาตุพนม

ปุริมายะ ทักขิณายะ ปัจฉิมายะ อุตตะรายะ เหฏฐิมายะ อุปะริมายะ ทิสายะ กะปะณะคิริสะมิง ปัพพะเต มหากัสสะเปนะ ฐาปิตัง พุทธอุรังคะธาตุง สิระสา นะมามิ

คำไหว้ยอด

สุวัณณะระชะตัง ระตะนัง ปะณีตัง พุทธะอุรังคะเจติยัง อะหัง วันทามิ สัพพะ

เที่ยวน่าน ไหว้สักการะพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุประจำคนเกิดปีเถาะ (กระต่าย)

ปีเถาะเป็นปีที่สี่ของปีนักษัตร (ธาตุไม้) มีสัญลักษณ์เป็นรูป “กระต่าย” สำหรับคนเกิดปีเถาะมีพระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน หากมีโอกาสได้มาเที่ยวในเมืองน่าน ควรมาสักการะองค์พระธาตุแช่แห้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองน่าน ให้ได้สักครั้ง เพื่อเป็นการเสริมบุญบารมีให้เกิดความเป็นสิริมงคลในชีวิต พระธาตุแช่แห้งประดิษฐานอยู่ ณ อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ

วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน
วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน

ประวัติพระธาตุแช่แห้ง

ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับสรงน้ำที่ริมฝั่งแม่น้ำน่านทางทิศตะวันออก ที่บ้านห้วยไค้ และเสวยผลสมอแห้ง ซึ่งพระยามลราชนำมาถวาย แต่ผลสมอนั้นแห้งมาก พระพุทธเจ้าจึงทรงนำผลสมอนั้นไปแช่น้ำก่อนเสวย และทรงพยากรณ์ว่า ต่อไปที่นี่จะมีผู้นำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน จึงเรียกพระสถูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแห่งนี้ว่า พระธาตุแช่แห้ง

พระธาตุแช่แห้งองค์เดิม
พระธาตุแช่แห้งองค์เดิม

พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่าน สันนิษฐานว่ามี อายุราว 600 ปี พญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1891 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้มาจากกรุงสุโขทัย องค์พระธาตุมีความสูง 55.5 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 22.5 เมตร บุด้วยทองเหลืองหมดทั้งองค์ เป็นโบราณสถานที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของล้านนา ทุกปีจะมีงานนมัสการพระบรมธาตุแช่แห้ง ระหว่างวันขึ้น 11 ค่ำ ถึง 15 ค่ำเดือน 6 ทางเหนือ ซึ่งจะอยู่ราวปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคมของทุกปี

วัดพระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองน่าน ตั้งอยู่บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง เป็นพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า

พระธาตุแช่แห้ง
พระธาตุแช่แห้ง

ลักษณะสถาปัตยกรรมขององค์พระธาตุแช่แห้ง(ปัจจุบันอยู่ในการบูรณะซ่อมแซม) สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลมาจากพระธาตุหริภุญไชย(ลำพูน) เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำบนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส

ในวัดพระธาตุแช่แห้ง นอกจากองค์พระธาตุแช่แห้งแล้ว ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลากหลาย อาทิ พระเจ้าทันใจ พระวิหารหลวง พระเจ้าล้านทอง พระพุทธไสยยาสน์ ฯลฯ

วิหารพุทธไสยาศน์
วิหารพุทธไสยาศน์

วิหารพุทธไสยาศน์ อยู่ทางด้านหน้านอกกำแพงแก้วขององค์พระธาตุแช่แห้ง ก่อสร้างตามแนวยาวขององค์พระ มีประตูทางเข้าด้านหลังคือ ทิศใต้

พระพุทธไสยยาสน์
พระพุทธไสยยาสน์

บทสวดบูชาพระธาตุแช่แห้ง (ประจำปีเถาะ)

คำไหว้องค์พระธาตุแช่แห้ง
คำไหว้องค์พระธาตุแช่แห้ง

(ตั้งนะโม 3 จบ)
ยาธาตุภูตา อะตุลานุภาวา
จีรัง ปะติฎฐิตา นันทะกัปปะเกปุเร
เทเวนะ คุตตา วะระพุทธะธาตุง
จิรัง วันทามิ หันตัง
ชินะธาตุโย โสตะถาคะตัง
อะหังวันทามิ สัพพะทา
อะหัง วันทามิ ทูระโต (สวด 3 จบ)

ไหว้พระธาตุพระเกศแก้วจุฬามณีสำหรับคนเกิดปีจอ(สุนัข) ที่วัดเกตการาม จ.เชียงใหม่

การไหว้พระธาตุ หรือพระบรมสารีริกธาตุ สำหรับพุทธศาสนิกชนคนไทยแล้ว หากมีโอกาสควรไปกราบไหว้สักการะพระธาตุประจำปีเกิดให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะมีความเชื่อกันว่าการได้มากราบไหว้ขอพรพระธาตุประจำปีเกิดของตน เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต

พระธาตุพระเกศแก้วจุฬามณีสำหรับคนเกิดปีจอ(สุนัข) ที่วัดเกตการาม
พระธาตุพระเกศแก้วจุฬามณีสำหรับคนเกิดปีจอ(สุนัข) ที่วัดเกตการาม

ปีนักษัตรมี ทั้งหมด 12 นักษัตร ได้แก่ 1.ชวด(หนู) 2.ฉลู(วัว) 3.ขาล(เสือ) 4.เถาะ(กระต่าย) 5.มะโรง(งูใหญ่) 6.มะเส็ง(งูเล็ก) 7.มะเมีย(ม้า) 8.มะแม(แพะ) 9.วอก(ลิง) 10.ระกา(ไก่) 11.จอ(หมา) 12.กุล(หมู)

พระธาตุปีจอ วัดเกตการาม
พระธาตุปีจอ วัดเกตการาม

การเดินทางครั้งนี้ได้มาเที่ยวเชียงใหม่จึงได้มีโอกาสมากราบสักการะขอพรองค์พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี ที่วัดเกตการาม ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ริมแม่น้ำแม่ปิง ซึ่งเป็นพระธาตุสำหรับคนเกิดปีจอ ซึ่งตรงกับปีนักษัตรของเรา ปีนักษัตรของคนเกิดปีจอได้แก่คนที่เกิดในปี พ.ศ. 2465 พ.ศ. 2477 พ.ศ. 2489 พ.ศ. 2501พ.ศ. 2513 พ.ศ. 2525 พ.ศ. 2537 พ.ศ. 2549 พ.ศ. 2561 พ.ศ. 2573 พ.ศ. 2585 และ พ.ศ. 2597 ปีจอ เป็นชื่อปีที่ 11 ของรอบปีนักษัตร มีสัญลักษณ์เป็นหมา

พระธาตุพระเกศแก้วจุฬามณีสำหรับคนเกิดปีจอ(สุนัข) ที่วัดเกตการาม
พระธาตุพระเกศแก้วจุฬามณีสำหรับคนเกิดปีจอ(สุนัข) ที่วัดเกตการาม

ตามพุทธประวัติกล่าวไว้ว่า พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีนั้น ตั้งอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า และตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชนเถรวาท จุฬามณีเจดีย์ เป็นเจดีย์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ที่บรรจุพระจุฬาพระโมลีและพระเขี้ยวแก้วของพระโคตมพุทธเจ้า และด้วยที่พระธาตุเจดีย์องค์นี้คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเดินทางไปถึงได้ จึงสามารถมาบูชา พระเจดีย์ ที่วัดเกตการาม จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีชื่อพ้องกับพระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์แทนได้นั่นเอง

พระบรมสารีริกธาตุ เรียกโดยย่อว่าพระบรมธาตุ คือ พระอัฐิของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ได้ทรงอธิษฐานไว้ก่อนปรินิพพาน ให้คงเหลือไว้หลังจากการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน
ชาวพุทธเชื่อว่าพระบรมสารีริกธาตุ เป็นวัตถุแทนองค์พระบรมศาสดาที่ทรงคุณค่าสูงสุดในศาสนาพุทธ จึงนิยมกระทำการบูชาองค์พระบรมสารีริกธาตุ

สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธองค์ อยู่ในพระราชอุทยานของเจ้ามัลละฝ่ายเหนือแห่งกุสินารา สวนป่าไม้สาละ ป่าแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญญวดี เป็นป่าไม้สาละร่มรื่น
พระองค์ทรงเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ระหว่างใต้ต้นสาละคู่ ณ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ ในปัจฉิมยามแห่งราตรีวิสาขปรุณมีเพ็ญเดือน 6 ขณะมีพระชนมายุ 80 พรรษา

วัดเกตการาม
วัดเกตการาม
วัดเกตการาม
วัดเกตการาม

ประวัติวัดเกตการาม(วัดเกศ)

วัดเกตเป็นวัดเก่าแก่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ประวัติวัดบอกว่าสร้างในปี พ.ศ. 1921 ในสมัยกษัตริย์ราชวงศ์มังราย พระธาตุวัดเกตเป็นที่ประดิษฐานของพระเกศาธาตุ ชาวบ้านเรียกว่า พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี ถือเป็นการจำลองพระเกศแก้วจุฬามณีจากสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มาไว้ในโลกมนุษย์ ดังนั้นจึงสร้างให้ยอดพระธาตุเอียง เพื่อมิให้ยอดชี้ขึ้นไปตรงกับองค์ที่อยู่บนสวรรค์เพราะถือว่าเป็นการไม่สมควร นอกจากนี้ยังมีความเชื่อตามตำราโบราณที่ว่าคนเราที่เกิดมาในโลกนี้เมื่อสิ้นอายุขัย ดวงวิญญาณจะไปสถิตอยู่ตามพระธาตุเจดีย์ต่างๆ ตามปีที่เกิด และขณะที่ยังมีชีวิตอยู่หากได้ไปนมัสการพระธาตุประจำปีเกิด ถือได้ว่าเป็นบุญกุศลและทำให้อายุมั่นคงยืนยาว สำหรับพระธาตุวัดเกตถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีจอ และพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ 

วัดเกตการาม
วัดเกตการาม
วัดเกตการาม
วัดเกตการาม
วัดเกตการาม
วัดเกตการาม
วัดเกตการาม
วัดเกตการาม

บทสวดบูชา นมัสการพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี

(กล่าวนะโม 3 จบ)

ตาวะติงสายะ ปุรัมเม เกสะจุฬามะณี สะรีระปัพพะตา ปูชิตา สัพพะเทวานัง
ตัง สิระสาธาตุ อุตตะมัง อะหังวันทามิ สัพพะทา. (3 จบ)

บทสวดบูชา นมัสการพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี
บทสวดบูชา นมัสการพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี

การเดินทางไปวัดเกตการาม

ประตูเล็ก วัดเกตการาม
ประตูเล็ก วัดเกตการาม

วัดเกตการาม ตั้งอยู่บนถนนเจริญราษฎร์ หากมาจากตัวเมืองก็ข้ามสะพานนวรัฐ เลี้ยวซ้ายตรงคอสะพานแล้วขับเลียบแม่น้ำปิงโดยจะผ่านร้านอาหารกู๊ดวิว ขับรถตรงไปก็จะพบสามแยกให้เลี้ยวขวาตามถนนเข้าไปก็จะพบ วัดเกตการามหากไม่เลี้ยวขวาก็หาที่จอดริมถนน แล้วเดินเข้าประตูเล็กที่อยู่ติดกับถนนเจริญราษฎร์ได้เลย (ประตูเล็กจะอยู่ตรงกับสะพานเดินข้ามน้ำปิง มองเห็นวิวแม่น้ำปิงและตลาดวโรรสอยู่ฝั่งตรงข้าม)