Category Archives: Travel

travel

เที่ยวชมวังบางขุนพรหมวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT นั่งเรือ และเดิน

ทริปนี้จะไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์วังบางขุนพรหม ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เริ่มต้นการเดินทางด้วยการใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน MRT มาลงที่สถานีบางโพ เนื่องจากที่สถานีบางโพจะมีจุดเชื่อมต่อกับเรือด่วนเจ้าพระยา จากนั้นก็นั่งเรือด่วนเจ้าพระยาไปลงที่ท่าพระอาทิตย์ จุดสังเกตุคือหัวเรือที่จะไปจะหันไปทางด้านอาคารรัฐสภา ทางด้านซ้ายมือ

วังบางขุนพรหม

ทริปนี้เราวางแผนที่จะเดินทางไปที่ท่าพระอาทิตย์ก่อนเพราะย่านนี้จะมีร้านอาหาร คาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ให้เที่ยวชมเยอะ ก็เผื่อเวลาไปเดินกินและเที่ยวย่านนี้ก่อน เพราะจองรอบเข้าชมวังบางขุนพรหมไว้ที่รอบ 13.30 น.

สะพานพระราม 8
วังบางขุนพรหมอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และสะพานพระราม 8

เมื่อเดินเที่ยวย่านนี้จนเป็นที่พอใจแล้ว จากสี่แยกบางลำพูให้เดินไปทางแยกด้านซ้ายมือ เดินตรงไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จนไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อเห็นสะพานพระราม 8 ให้เดินเลี้ยวซ้ายไปที่ริมแม่น้ำ จุดที่ลงทะเบียนเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์จะอยู่ที่อาคารทางด้านซ้ายมือ อาคารศูนย์การเรียนรู้ ธปท. ชั้น 1

วังบางขุนพรหม

การจะมาเที่ยวชมที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังบางขุนพรหมนั้น ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เพื่อเข้าชมก่อนทุกครั้ง จองลงทะเบียนได้ที่ https://services.botlc.or.th/PhysicalDistancing/Register/BangKhunphromPalace

แบบจำลองวังบางขุนพรหม

การเยี่ยมชมวังบางขุนพรหม
จะเปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ ยกเว้น วันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย

ให้บริการสำหรับประชาชนทั่วไป จำนวน 3 รอบ ได้แก่ 11.00 น. 13.30 น. และ 15.00 น. รอบละ 40 คน
และต้องจองเข้าชมล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน สิ่งที่ต้องเตรียมมาคือเตรียมบัตรประชาชน/บัตรนักเรียน/ใบขับขี่/หนังสือเดินทาง เพื่อตรวจสอบการลงทะเบียนก่อนรับบัตรผ่านเข้าชม

วังบางขุนพรหม

การแต่งกายสำหรับมาเยี่ยมชมวังบางขุนพรหม ควรแต่งกายสุภาพ สำหรับผู้ชาย ห้ามใส่กางเกงขาสั้น ยกเว้นเครื่องแบบนักเรียน สำหรับผู้หญิงห้ามใส่กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น เสื้อแขนกุด สายเดี่ยว

วังบางขุนพรหม แต่เดิมเคยเป็นวังที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ต้นราชสกุลบริพัตร และ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี พระมารดา
วังบางขุนพรหม มีเนื้อที่ 33 ไร่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทางทิศใต้ของวังเทวะเวสม์ วังบางขุนพรหม มีตำหนักรวม 2 ตำหนัก ได้แก่ ตำหนักใหญ่ และตำหนักสมเด็จ

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ต้นราชสกุลบริพัตร
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร

สถาปัตยกรรมวังบางขุนพรหม ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์ ผสมผสานกับลวดลายศิลปะแบบนีโอ-บารอก ประตูวังสร้างด้วยเหล็กดัดและเสาปูนประดับลวดลายปูนปั้นที่งดงาม กึ่งกลางสนามมีน้ำพุประดับขอบบ่อด้วยรูปเงือกฝรั่งชายหญิงและสัตว์น้ำต่างๆ

ภายในวังบางขุนพรหม
ภายในวังบางขุนพรหม
ภายในวังบางขุนพรหม

ถ้าจองได้รอบ 11.00 น. ตรงบริเวณนี้จะเป็นจุดไฮไลท์ที่จะได้เห็นแสงตกกระทบกับกระจกเป็นสีสันสวยงาม

ห้องสีชมพู วังบางขุนพรหม
ห้องสีชมพู วังบางขุนพรหม

ห้องสีชมพู ไม่อนุญาตให้เข้าไป แต่สามารถถ่ายรูปได้จากด้านนอก

ภายในวังบางขุนพรหมมี ห้องสีชมพู และห้องสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นห้องที่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา วิจิตร และมีชื่อเสียงที่สุด เดิมเป็นห้องรับแขกสำคัญ และบำเพ็ญพระกุศลของวังบางขุนพรหม ปัจจุบันจัดแสดง ภาพเขียน ภาพถ่ายเจ้านายในราชสกุลบริพัตร สิ่งของ เครื่องใช้ในวังบางขุนพรหม เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต

ภายใน วังบางขุนพรหม
ภายใน วังบางขุนพรหม
วังบางขุนพรหม
วังบางขุนพรหม

ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมตามแบบตะวันตกทั้ง นีโอ-บารอก โรโกโก อาร์นูโว และ อาร์ตเดโค ทำให้วังบางขุนพรหม ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในวังที่สวยที่สุดเมืองไทย และเป็นวังที่สถาปัตยกรรมบารอกและโรโคโค ที่สมบูรณ์ที่สุด

สำหรับปัจจุบันนี้ วังบางขุนพรหม เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย

เดินทางไป The EMSPHERE Bangkok ด้วยรถไฟฟ้า BTS ห้างเปิดใหม่ใจกลางสุขุมวิท

The EMSPHERE เป็นหนึ่งในห้างในเครือของ The Mall Group ซึ่งเป็นห้างที่เปิดใหม่ในปลายปี 2566 ตั้งอยู่ใจกลางสุขุมวิท ในย่านพร้อมพงษ์ ทำเลที่ตั้งของ The EMSPHERE นั้นตั้งอยู่ในละแวกเดียวกันกับห้าง The Emporium และ The Emquatier ซึ่งเป็นห้างในเครือของ The Mall Group เช่นกัน

The EMSPHERE Bangkok

การเดินทางมาที่ The EMSPHERE นั้นสามารถเดินทางโดยสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีพร้อมพงษ์ เลือกออกทางออกที่ 6 แล้วเดินตรงไปตามทางเดินลอยฟ้าจะมีป้ายบอกทางไปยัง The EMSPHERE โดยจะผ่านห้าง The Emporium และ The Emquatier ผ่านสวนอุทยานเบญจสิริ ตัวอาคารจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ จุดเด่นจะมีป้าย IKEA เด่นชัดที่ตัวอาคาร

รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์
เลือกออกทางออกที่ 6
เดินตรงไปตามป้าย The EMSPHERE Bangkok
The EMSPHERE Bangkok

ภายในห้าง The EMSPHERE Bangkok จะแยกเป็นโซนสำหรับสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม โซนสำหรับไลฟ์สไตล์ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ โซนอาหารซึ่งมีทั้งอาหาร International food, Street food รวมถึงอาหารชั้นนำจากทั่วโลก โซนสำหรับแฮงก์เอาท์กลางคืนซึ่งมีทั้งบีชคลับ บาร์ ไนท์คลับ เลานจ์ ตลอด 24 ชั่วโมง และนอกจากนี้ยังมีโซนสินค้านวัตกรรมล้ำสมัยจากแบรนด์ระดับโลกอีกด้วยเช่นกัน

ภายในห้าง The EMSPHERE Bangkok
ภายในห้าง The EMSPHERE Bangkok
ภายในห้าง The EMSPHERE Bangkok

The EMSPHERE Bangkok ยังมีฮอลล์ขนาดใหญ่ที่สามารถใช้จัดกิจกรรมต่างๆ ได้เช่น

IKEA City Store ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ชั้น 3 ของห้างทั้ง floor

Em Live ฮอลล์ระดับ World Class เพื่อรองรับการจัดงานต่างๆ เช่นคอนเสิร์ต แฟชั่นโชว์ อีเวนต์ ฯลฯ ซึ่งสามารถจุได้ถึง 6,000 ที่นั่ง

Apple Store แห่งที่ 3 ของไทย

โชว์รูม Tesla ประเทศไทย

เดินทางไปสถานทูตอเมริกาด้วยรถไฟฟ้า BTS พร้อมรีวิวการสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา USA visa

การขอวีซ่าอเมริกาเมื่อกรอกแบบฟอร์ม DS160 และจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปจองวันที่จะเข้าไปนัดสัมภาษณ์กับสถานทูตอเมริกา ซึ่งสามารถเลือกรอบวันสัมภาษณ์ได้ด้วยตัวเองและต้องไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาที่ สถานทูตอเมริกาในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 95 ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ 10330 เบอร์โทรศัพท์ +66-2-205-4000

เรากรอกแบบฟอร์ม DS160 ผ่านเว็บไซต์ของสถานทูตอเมริกาผ่านลิ้งค์นี้ https://ceac.state.gov/GenNIV/Default.aspx ในการกรอกแบบฟอร์ม DS160 ต้องกรอกตามความเป็นจริงและกรอกให้ครบทุกช่อง เพราะเวลาที่สถานทูตอเมริกาพิจารณาในการให้วีซ่านั้น จะดูจากข้อมูล DS160 เป็นหลัก เมื่อกรอกแบบฟอร์ม DS160 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปลงทะเบียนผ่านลิ้งค์ https://portal.ustraveldocs.com/ เพื่อเข้าไปกรอกรายละเอียดเพื่อชำระเงิน และเมื่อกรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อย ก็นำเลขใบเสร็จไปจ่ายเงินที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และเมื่อจ่ายเงินแล้ว เว้นระยะวันนึงก็กลับมาเลือกวันจองสัมภาษณ์อีกครั้งผ่านเว็บไซต์นี้อีกครั้ง (เราสมัครวีซ่าอเมริกาและจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยในเดือนกันยายน 2566 จองคิวได้รอบสัมภาษณ์ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 )

วิธีการเดินทางไปสถานทูตอเมริกา

การเดินทางไปที่สถานทูตอเมริกา กรุงเทพฯ เรานั่งรถไฟฟ้าบีทีเอส ไปลงที่สถานีเพลินจิต เดินออกมาทางออกที่ 2 เดินไปทาง โรงแรม ดิโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพ เดินลงไปที่ชั้นล่าง และเดินออกไปนอกอาคาร จากนั้นก็เดินเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปตามถนนวิทยุ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินประมาณ 5-10 นาทีก็จะถึงสถานทูตอเมริกาอยู่ทางซ้ายมือ

สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ที่สถานทูตอเมริกา
สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ที่สถานทูตอเมริกา
สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ที่สถานทูตอเมริกา
สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ที่สถานทูตอเมริกา
สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ที่สถานทูตอเมริกา
สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ที่สถานทูตอเมริกา
สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ที่สถานทูตอเมริกา

เมื่อมาถึงสถานทูตอเมริกา ให้มาเข้าคิวตรงด้านหน้า จากนั้นเมื่อถึงคิวตรงเจ้าหน้าที่ ให้ยื่นพาสปอร์ต และแจ้งรอบเวลาที่นัดมาสัมภาษณ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะติดแผ่นไปรษณีย์ลงทะเบียนที่มีที่อยู่ของเราไว้ด้านหลังพาสปอร์ต ให้จดเลขไปรษณีย์ลงทะเบียนไว้ในกรณีผ่านวีซ่าจะได้เอาไปตรวจดูได้ทีหลังว่าพาสปอร์ตมาส่งคืนวันไหน จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะให้แผ่นป้ายเพื่อผ่านเข้าไปด้านในอาคาร

สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ที่สถานทูตอเมริกา

เมื่อเข้าไปด้านในอาคาร ยื่นแผ่นป้าย และต้องฝากโทรศัพท์ไว้กับเจ้าหน้าที่พร้อมบัตรใบขับขี่หรือบัตรประชาชน 1 ใบ ฝากโทรศัพท์ไว้ได้ไม่เกิน 2 เครื่อง เพราะใส่ในตะกล้าใบเล็กๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้กำไลใส่ข้อมือมีหมายเลขรับฝากคืนมาให้ ให้นำมารับคืนตอนกลับ (แนะนำว่าไม่ควรพกอุปกรณ์อย่างอื่นไป เช่นแทปเล็ต โน๊ตบุ๊ค อุปกรณ์มีคมต่างๆ เพราะไม่สามารถนำเข้าไปได้) จากนั้นก็สแกนกระเป๋าและร่างกาย และเดินไปตามทางเดินที่ระบุไว้ เมื่อเข้ามาถึงด้านในจะเจอเจ้าหน้าที่คอยเรียกตามรอบเวลาที่นัดสัมภาษณ์ให้นั่งรอตามรอบที่เรียก

เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกถึงรอบเวลาที่นัดสัมภาษณ์ไว้ ให้ยื่นพาสปอร์ต พร้อมรูปถ่าย 1 รูป และเดินเข้าไปด้านในอาคารเพื่อเข้าไปสัมภาษณ์วีซ่า เข้าไปต่อคิวสัมภาษณ์เบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่คนไทยก่อน พร้อมสแกนลายนิ้วมือ ตรงจุดนี้ยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ก็จะสอบถามคำถามเบื้องต้น คำถามที่เราเจอคือไปอเมริกาทำไม ทำงานอะไรที่ไหน ทำงานกี่ปี ตำแหน่งอะไร รูปถ่ายถ่ายเมื่อไหร่ เคยเปลี่ยนชื่อมั้ย เมื่อตอบคำถามเบื้องต้นเสร็จก็สแกนลายนิ้วมือตามที่เจ้าหน้าที่บอก

จากนั้นไปรอต่อคิวสัมภาษณ์กับท่านกงศุลตามช่อง วันนี้เราไปเจอท่านกงศุลผู้ชายช่องริมซ้ายสุด ดูใจดี ท่านกงศุลสามารถพูดภาษาไทยได้ สัมภาษณ์เป็นภาษาไทย เรากล่าวสวัสดีและยื่นพาสปอร์ตเล่มเก่าและเล่มใหม่ให้ท่านกงศุล

คำถามที่ท่านกงศุลถามเราคือ ไปอเมริกาทำไม ทำงานที่นี่กี่ปีแล้ว ทำงานตำแหน่งอะไร เคยไปเที่ยวที่ประเทศไหนมาบ้าง และก็พูดว่าวีซ่าคุณผ่านแล้ว! พร้อมยึดพาสปอร์ตเล่มใหม่เอาไว้ คืนพาสปอร์ตเล่มเก่ามาให้

จะเห็นได้ว่าทุกจุดที่ผ่านการคัดกรองจนถึงการสัมภาษณ์กับท่านกงศุลไม่ต้องใช้เอกสารอะไรเลย ซึ่งวันนี้เราเตรียมไปคือ รูปถ่าย หนังสือรับรองการทำงาน ใบนัดสัมภาษณ์วีซ่า ใบยืนยันการกรอก DS160 ใบเสร็จชำระเงิน ทะเบียนบ้าน ใช้เพียงแค่รูปถ่าย 1 รูปเท่านั้นพร้อมพาสปอร์ต

รวมคลิปเที่ยวมาไซมาร่า 5 วัน 4 คืน ท่องดินแดนอาณาจักรสัตว์ป่าที่เคนยา แอฟริกา

ทริปนี้เป็นการเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเคนยา ทวีปแอฟริกา เป็นเวลา 10 วัน และไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่าเป็นเวลา 5 วัน 4 คืน

การเดินทางไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่าในทริปนี้ใช้บริการบริษัททัวร์ท้องถิ่นของคนเคนยาชื่อบริษัท Serenity Mara Safiris ซึ่งจะเป็นคนดูแลเราตลอดทั้งทริปในการทัวร์ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า โดยวันแรกจะมีรถตู้มารับเราในเมืองในโรบีตอนเช้า 7.00 น. และไปส่งถึงหน้าด่านทางเข้าอุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า จากนั้นก็จะเปลี่ยนมาใช้รถแลนด์ครุยเซอร์ เข้าไปในอุทยานมาไซมาร่า

อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า เคนยา

ทริปนี้จะไปพัก 2 ที่พักด้วยกันคือ Mara Serena Safari Lodge ซึ่งเป็นที่พักที่ตั้งอยู่บนภูเขา โดยพักที่นี่ 2 วัน 2 คืน และอีกที่พักคือ marangenche ซึ่งเป็นที่พักแนวแคมป์เป็นเต๊นท์สไตล์แอฟริกา ตั้งอยู่ที่ราบกลางป่าในอุทยานมาไซมาร่า และติดกับแม่น้ำมาร่า โดยจะพักที่นี่เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน และก็กลับเข้าเมืองไนโรบี

อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า เคนยา

ทริปนี้ได้ทำวีดีโอลง YouTube ทั้งหมด 5 EP. ด้วยกันคือ

EP.1/5 สำรวจโลกสัตว์ป่าที่มาไซมาร่า วันแรกในดินแดนทุ่งหญ้าสะวันน่า https://youtu.be/5EaSvlJopp4

อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า เคนยา

EP.2/5 ท่องซาฟารี สำรวจโลกสัตว์ป่าที่มาไซมาร่า ไปเยือนเขตแดนเคนยาแทนซาเนีย https://youtu.be/8t_0AVErBuc

อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า เคนยา

EP.3/5 ท่องซาฟารี สำรวจโลกสัตว์ป่าที่มาไซมาร่า ไปนอนแคมป์กลางป่า https://youtu.be/E9D-ke5tWyg

อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า เคนยา

EP.4/5 ท่องซาฟารี สำรวจโลกสัตว์ป่าที่มาไซมาร่า เจอครบBig5 https://youtu.be/Qsoka02Jcno

อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า เคนยา

EP.5/5 ท่องซาฟารี สำรวจโลกสัตว์ป่าที่มาไซมาร่า ปิดทริปวันสุดท้าย https://youtu.be/AEqkW5IsiQc

อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า เคนยา

นั่งรถไฟเที่ยวตลาดร่มหุบ แม่กลอง และตลาดน้ำอัมพวา One Day Trip

ตลาดร่มหุบเป็นอีกหนึ่งตลาดของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวเยี่ยมชม ด้วยความมีเอกลักษณ์ของตลาดที่เมื่อรถไฟวิ่งผ่าน บรรดาพ่อค้าแม่ค้าจะเก็บร้านเพื่อให้รถไฟผ่านโดยการหุบร่มที่กางไว้อย่างรวดเร็วเพราะพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงร้านค้าขายของกันติดกับข้างรางรถไฟ

ตลาดร่มหุบ แม่กลอง

ตลาดร่มหุบตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟแม่กลอง ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม ตลาดเปิดขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น.

ตลาดร่มหุบ แม่กลอง

หากต้องการมาเที่ยวชมดูตลาดร่มหุบในเวลาที่รถไฟวิ่งผ่านสามารถมาตามตารางเวลารถไฟซึ่งวิ่งผ่านตลาดร่มหุบวันละ 8 รอบ คือ 06.20, 08.30, 09.30, 11.10, 11.30, 14.30, 15.30 และ 17.40 น.

การเดินทางมาที่ตลาดร่มหุบ แม่กลอง

โดยการเดินทางโดยรถไฟไปที่ตลาดร่มหุบ แม่กลองนั้น ต้องใช้การเดินทาง 3 ต่อด้วยกันคือ

เริ่มจากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ไปที่ สถานีรถไฟมหาชัย

จากสถานีรถไฟมหาชัย เดินไปที่ท่าเรือมหาชัย นั่งเรือข้ามฟากไปยังท่าเรือท่าฉลอม แล้วเดินไปที่สถานีรถไฟบ้านแหลม

จากสถานีรถไฟบ้านแหลม ไปยัง สถานีรถไฟแม่กลอง ตลาดร่มหุบ

ตารางการเดินรถไฟจากสถานีต้นทางวงเวียนใหญ่ – สถานีรถไฟมหาชัย มีตั้งแต่เวลา 5.30 น. – 20.10 น. มีทั้งหมด 17 รอบด้วยกัน ระยะห่างกัน 40-50 นาทีต่อขบวน ซึ่งจะเริ่มจากสถานีวงเวียนใหญ่, ตลาดพลู, คลองต้นไทร, จอมทอง, วัดไทร, วัดสิงห์, บางบอน, การเคหะ, รางสะแก, รางโพธิ์, สามแยก, พรหมแดน, บางน้ำจืด, คอกควาย, บ้านขอม, คลองจาก และสถานีปลายทางมหาชัย

สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสวงเวียนใหญ่

ทริปนี้เราเดินทางไปเที่ยวที่ตลาดร่มหุบในวันอาทิตย์ เดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส มาลงที่สถานีวงเวียนใหญ่ จากนั้นก็นั่งวินมอเตอร์ไซด์ไปที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่

สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่
สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่
สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่

มาถึงที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ซึ่งเป็นสถานีต้นทางวงเวียนใหญ่-มหาชัย ในเวลา 8.10 น. ซื้อตั๋วรถไฟไปที่สถานีรถไฟมหาชัยในรอบเวลา 8.35 น. ค่าบริการรถไฟ 10 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก็ไปถึงที่สถานีรถไฟมหาชัย ในเวลา 9.28 น.

สถานีรถไฟมหาชัย

จากสถานีมหาชัยเดินออกมาจะเจอตลาดสดมหาชัย จากนั้นเดินตรงไปทางขวามือจนเกือบสุดทางจะเห็นสวนสาธารณะ แล้วเดินไปทางซ้ายมือไปที่ท่าเรือมหาชัย เพื่อนั่งเรือข้ามฟากไปที่ท่าเรือท่าฉลอม จ่ายค่าเรือข้ามฟาก 3 บาท นั่งเรือไม่นานก็มาถึงที่ท่าเรือท่าฉลอม

ตลาดสดมหาชัย

ผ่านตลาดสดมหาชัย มีอาหารทะเลสดๆ และแบบแห้งขายเยอะมาก

ท่าเรือข้ามฟากมหาชัย

จุดขึ้นเรือข้ามฟากจากท่าเรือมหาชัย – ท่าเรือท่าฉลอม

ท่าเรือข้ามฟากมหาชัย

เมื่อมาถึงที่ท่าเรือท่าฉลอม เดินออกมาจะเจอป้ายไปที่สถานีรถไฟบ้านแหลม เดินไปตามป้ายจนไปถึงป้ายวัดแหลมสุวรรณาราม

ท่าเรือท่าฉลอม
ท่าเรือท่าฉลอม

จากป้ายบอกทางสถานีรถไฟบ้านแหลม-แม่กลอง เดินตรงไปประมาณ 500 เมตรจนถึงป้ายวัดแหลมสุวรรณาราม แล้วเลี้ยวขวา จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายอีกทีก็จะเจอสถานีรถไฟบ้านแหลม

วัดแหลมสุวรรณาราม
วัดแหลมสุวรรณาราม
สถานีรถไฟบ้านแหลม

จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วไปสถานีรถไฟแม่กลองในรอบ 10.10 น. ค่าตั๋วรถไฟ 10 บาท ถึงสถานีแม่กลองในเวลา 11.10 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงไปถึงสถานีรถไฟแม่กลอง ตลาดร่มหุบ

สถานีรถไฟบ้านแหลม

สถานีรถไฟบ้านแหลม – สถานีรถไฟแม่กลอง มีรถไฟให้บริการ 4 รอบขบวนด้วยกันคือรอบ 7.00 น. 9.30 น. 13.00 น. และ 16.00 น.

สถานีรถไฟบ้านแหลม

เมื่อรถไฟมาถึงที่ตลาดร่มหุบ รถไฟก็จะส่งสัญญาณแตรเตือนและประกาศ พวกพ่อค้าแม่ค้าก็พากันเก็บร้านอย่างรวดเร็วเอาร่มที่เคยกางปิดรางทางเดินรถไฟออก จากนั้นรถไฟก็เคลื่อนผ่านตลาดไปอย่างช้าๆ อย่างระมัดระวัง โดยที่สองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มายืนชมความ unseen ของรถไฟ รถไฟขบวนที่เรานั่งมาถึงที่สถานีปลายทางแม่กลองในเวลา 11.10 น.

ตลาดร่มหุบ แม่กลอง
ตลาดร่มหุบ แม่กลอง
ตลาดร่มหุบ แม่กลอง
ตลาดร่มหุบ แม่กลอง

เมื่อขบวนรถไฟที่เรานั่งมาถึง จากนั้นอีกประมาณ 20 นาทีรถไฟคันเดิมก็เคลื่อนออกจากสถานีรถไฟแม่กลอง เดินทางกลับไปที่สถานีรถไฟบ้านแหลม คราวนี้เราก็ได้เห็นความ unseen ของขบวนรถไฟที่ที่วิ่งผ่านตลาดร่มหุบ

ตลาดร่มหุบ แม่กลอง

นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเยอะมากที่ตลาดร่มหุบ

ตลาดร่มหุบ แม่กลอง

เดินเที่ยวชมที่ตลาดร่มหุบในเมืองแม่กลองแล้ว จากนั้นเราก็เดินทางไปเที่ยวต่อที่ตลาดน้ำอัมพวา ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากโดยใช้บริการรถสองแถว สมุทรสงคราม โรงเจ-อัมพวา ซึ่งจอดอยู่หน้าร้าน 7-11 ฝั่งตรงข้ามตลาดร่มหุบ ค่ารถ 10 บาท ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็มาถึงที่ตลาดน้ำอัมพวา

ตลาดร่มหุบ แม่กลอง

นั่งรถสองแถวมาลงที่อัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ แล้วเดินลัดเลาะเข้าไปในตลาดอัมพวา

ตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำอัมพวา

ขากลับจากตลาดน้ำอัมพวาเราเดินไปขึ้นรถสองแถวที่ถนนเส้นหลักด้านหน้าตลาด ฝั่งหน้าธนาคารกรุงเทพฯ กลับไปที่ตลาดร่มหุบเพื่อขึ้นรถไฟรอบ 15.30 น. เพื่อเดินทางกลับไปยังสถานีรถไฟบ้านแหลม

ตลาดน้ำอัมพวา

เรามาถึงสถานีรถไฟบ้านแหลมในเวลา 16.30 น. จากนั้นก็นั่งเรือข้ามฟากกลับมาที่ท่าเรือมหาชัย และไปซื้อตั๋วรถไฟกลับไปที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่รอบ 17.35 น. นั่งรถไฟอีก 1 ชั่วโมงก็มาถึงปลายทางสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ในเวลา 18.26 น. รถไฟตรงเวลามาก จบทริป 1 วันเที่ยวตลาดร่มหุบ แม่กลอง และตลาดน้ำอัมพวา

ท่าเรือมหาชัย
สถานีรถไฟมหาชัย

Day5 ปิดทริปวันสุดท้าย ในดินแดนอาณาจักรสัตว์โลก มาไซมาร่า เคนยา

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปซาฟารีมาไซมาร่า เช้าวันนี้ทานมื้อเช้าจากโรงแรม แล้วเช็คเอ้าท์ออกก่อน 9 โมงเช้า เมื่อเช็คเอ้าท์เสร็จแล้วก็ออกเดินทาง ระหว่างการเดินทางไปที่ด่านทางออกก็ทำ Game Drive ไปด้วย

บรรยากาศห้องอาหารของโรงแรม ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า

คลิปวีดีโอ YouTube EP.5/5 ท่องซาฟารี สำรวจโลกสัตว์ป่าที่มาไซมาร่า ปิดทริปวันสุดท้าย https://youtu.be/AEqkW5IsiQc

มื้อเช้าที่โรงแรม ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า

มื้อเช้าวันนี้ที่โรงแรม

มื้อเช้าที่โรงแรม ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า

บรรยากาศตอนเช้าที่โรงแรม ทานมื้อเช้าด้วยบรรยากาศแม่น้ำมาร่าและเหล่าสัตว์ป่า

สัตว์ป่าบริเวณโรงแรม ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า
สัตว์ป่าบริเวณโรงแรม ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า
บรรยากาศแม่น้ำมาร่าหน้าโรงแรม ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า

ระหว่างเส้นทางเช้าวันนี้ก็ได้มาเจอกับช้างแม่ลูกอ่อนที่หากินอยู่กลางทุ่งหญ้า

ช้าง ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า
ช้าง ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า

เมื่อเดินทางมาเรื่อยๆ Ranger ก็แจ้งว่าเจอเสือชีตาห์หลบแดดอยู่ที่ร่มไม้ และเมื่อดูเสือชีตาห์ที่นั่งอยู่ร่มไม้เสร็จแล้ว จากนั้น Ranger ก็พาไปเจอเสือดาวที่หลบอยู่หลังพุ่มไม้ แต่มองเห็นไม่ชัด

เสือชีตาห์ ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า
เสือชีตาห์ ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า

เมื่อขับทำ Game Drive มาเรื่อยๆ ก็ได้มาเจอกับนกกระจอกเทศอีกสองตัวกำลังแสดงท่าทีเพื่อดึงดูดตัวเมีย

ก่อนจะถึงทางออกก็ได้มาเจอกับเสือชีตาห์อีกสองตัวที่นอนอยู่ใต้ร่มไม้ จากนั้นก็เดินทางออกไปที่ด่าน เมื่อมาถึงด่านทางออกจะเปลี่ยนมานั่งรถตู้แทนรถแลนด์ครุยเซอร์ รถตู้มารอรับเราอยู่ที่หน้าด่าน

เสือชีตาห์ ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า

จากด่านทางออกเดินทางมุ่งตรงไปที่เมืองไนโรบี ใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 4 ชั่วโมง ในระหว่างเส้นทางก็จะผ่านที่ราบสลับกับพื้นที่ภูเขา บางทีก็ผ่านฟาร์มเกษตรที่ดูอุดมสมบูรณ์ บางทีก็ผ่านพื้นที่แห้งแล้ง ผ่านเมืองที่ดูแออัด

บรรยากาศระหว่างเดินทางกลับไปที่เมืองไนโรบี
บรรยากาศระหว่างเดินทางกลับไปที่เมืองไนโรบี

และในระหว่างทางกลับของวันนี้ช่วงที่กำลังขับผ่านหมู่บ้านนึงอยู่นั้น บนถนนเส้นหลักมีรถติดอยู่จำนวนนึง ซึ่งตอนนั้นเราก็สงสัยว่าคงเกิดอุบัติเหตุอยู่ข้างหน้า

แต่เมื่อขับมาใกล้จุด ก็ได้เห็นดินทรายกองปิดเส้นทางเดินรถเอาไว้ และมีกลุ่มวัยรุ่นผู้ชายจำนวน 30-40 คน มารุม คนขับรถตู้ของเราเป็นคนท้องถิ่น เปิดกระจกคุยเจรจากับกลุ่มวัยรุ่นที่มาปิดล้อมรถเอาไว้โดยใช้เวลาอยู่พักใหญ่ จนพวกวัยรุ่นเหล่านั้นยอมถอยให้รถผ่านไปได้ ซึ่งมารู้ทีหลังว่าพวกกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้นั้นปิดถนนเพื่อรีดไถเงินรถที่ผ่านไปผ่านมา

จากเหตุการณ์ที่เจอในครั้งนี้ทำให้คิดว่า สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวคนเดียวคงยังไม่ปลอดภัยพอสำหรับการมาเที่ยวคนเดียวโดยที่ไม่มีไกด์นำทางเป็นคนท้องถิ่น

จากนั้นเราก็เดินทางกันต่อ โดยมีรถติดเป็นช่วงๆ บ้างเพราะรถบรรทุกเยอะมากบนถนนทำให้ทำความเร็วได้ยาก และไม่สามารถขับแซงไปได้เพราะถนนเป็นถนนเลนเดียวและบางช่วงก็เป็นพื้นที่ภูเขา เรามาถึงที่พักในเมืองไนโรบีเวลาประมาณห้าโมงเย็นและอยู่เที่ยวพักผ่อนที่เมืองไนโรบีต่อ

Day4 ตะลุยซาฟารี ดินแดนอาณาจักรสัตว์โลก มาไซมาร่า เคนยา Safari Masai Mara Kenya

เช้าวันนี้เป็นวันที่ 4 ที่อยู่ที่อุทยานมาไซมาร่า เช้านี้ออกไปทำ Game Drive ตั้งแต่หกโมงเช้า เลยมีโอกาสได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า วันนี้ก็ได้เจอจุดแคมป์สำหรับขึ้นบอลลูน

อุทยานมาไซมาร่า
อุทยานมาไซมาร่า
บอลลูนที่ อุทยานมาไซมาร่า

คลิปวีดีโอ YouTube EP.4/5 ท่องซาฟารี สำรวจโลกสัตว์ป่าที่มาไซมาร่า เจอครบBig5 https://youtu.be/Qsoka02Jcno

เราเดินทางขับรถทำ Game Drive มาเรื่อยๆ และได้เจอสัตว์ตัวแรกของวันนี้ คือสิงโตตัวนึง ที่กำลังเดินถูไถกับใบไม้เพื่อทำความสะอาดร่างกายตัวเองอยู่ จึงหยุดดูพฤติกรรมของสิงโตอยู่พักนึงจนสิงโตเดินหายไป

สิงโต ที่อุทยานมาไซมาร่า
สิงโต ที่อุทยานมาไซมาร่า
สิงโต ที่อุทยานมาไซมาร่า
สิงโต ที่อุทยานมาไซมาร่า

จากนั้นก็ขับรถมาเรื่อยๆ เส้นทางวันนี้ค่อนข้างตะกุกตะกัก เพราะรถมาติดหล่ม เลยต้องรอรถของ Ranger อีกคันมาช่วยดึงรถออกจากหล่ม เราต้องออกมาจากตัวรถ Ranger ก็แจ้งว่าห้ามอยู่ห่างจากตัวรถมากนัก เพราะที่นี่อยู่กลางป่า อาจจะเกิดอันตรายได้หากมีสัตว์นักล่าผ่านมา ใช้เวลาไม่นานนักก็มีรถของ Ranger อีกคันมาช่วยดึงรถออกจากหล่ม จากนั้นก็เดินทางทำ Game Drive ต่อ

อุทยานมาไซมาร่า

หลังจากมองเห็นเสือดาว หรือ Leopard อยู่หลังพุ่มไม้มาหลายครั้ง วันนี้ก็ได้เจอเสือดาวชัดๆ เพราะเสือดาวเดินอยู่ตรงทางเดิน เสือดาวเป็นสัตว์ในสายพันธุ์นักล่าที่มีนิสัยดุร้าย ปีนต้นไม้เก่ง และชอบหลบซ่อนตัว ชอบอยู่ตามลำพังไม่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง

เสือดาว หรือ Leopard ที่อุทยานมาไซมาร่า
เสือดาว หรือ Leopard ที่อุทยานมาไซมาร่า
เสือดาว หรือ Leopard ที่อุทยานมาไซมาร่า

การเจอเสือดาวที่อุทยานมาไซมาร่านั้น เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากเพราะปกติแล้วเสือดาวจะชอบหลบซ่อนตัวได้เก่ง เช้านี้ก็เลยมีรถของ Ranger จำนวนเยอะมากที่พานักท่องเที่ยวตามมาดูเสือดาว การได้เจอเสือดาวในเช้าวันนี้ก็ได้เฝ้าดูพฤติกรรมของเสือดาว จนเสือดาวเดินไปแอบอยู่ในทุ่งหญ้าจนหายลับตาไปอีกครั้ง

อุทยานมาไซมาร่า

การทำ Game Drive วันนี้ก็มาทานอาหารมื้อเช้าที่ใต้ต้นไม้อีกครั้ง โดยทางโรงแรมจะจัดเตรียมอาหารมื้อเช้ามาให้ด้วย ในระหว่างทาง Game Drive บางครั้งหากต้องการเข้าห้องน้ำ อาจจะต้องเข้าห้องน้ำในลานกลางแจ้งโดยใช้รถเป็นที่กำบัง เพราะหากไปเข้าห้องน้ำหลังพุ่มไม้ก็อาจจะเป็นอันตรายได้ เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่าเหล่าสัตว์นักล่าแอบอยู่ตรงไหนบ้าง แต่เพราะพื้นที่กว้างใหญ่มากจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนอื่นมาเห็นในเวลาที่ทำธุระส่วนตัวอยู่

อุทยานมาไซมาร่า

มื้อเช้าของวันนี้ที่ทางโรงแรมจัดเตรียมมาให้

อาหารที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ ทานใต้ต้นไม้ที่อุทยานมาไซมาร่า

ทานมื้อเช้าเสร็จ Ranger ก็แจ้งสัญญาณกันว่าเจอสิงโตอีกตัวนึง Ranger ของเราพาเรามายังจุดที่มีรถหลายคันมารอดูสิงโต ในช่วงที่เจอสิงโตตัวนี้คือสิงโตเพิ่งเสร็จจากการกินอาหารจากเหยื่อที่ล่ามาได้ เลือดสดยังคงเปื้อนหน้าของสิงโต อากาศเริ่มร้อนขึ้น เมื่อสิงโตเห็นรถของ Ranger สิงโตก็เดินมาที่รถเพื่อมานั่งหลบแดด รถก็เคลื่อนตัวออก สิงโตก็เปลี่ยนไปหลบที่รถคันนั้นทีคันนี้ทีโดยไม่มีทีท่าหวาดกลัว หรือจะขู่คำราม ถ้าดูแบบนี้เหมือนสิงโตจะไม่ดุร้าย แต่จริงๆ แล้วสิงโตก็คือสัตว์นักล่าที่ดูได้แต่ตา มือห้ามไปแตะต้องตัวสิงโตเป็นอันขาด และห้ามออกนอกตัวรถ เพราะว่านอกจากจะอันตรายแล้วยังเป็นการทำผิดกฏของอุทยานมาไซมาร่าอีกด้วย โทษแรงจนอาจจะโดนแบนห้ามเข้าอุทยานอีก

อุทยานมาไซมาร่า
สิงโต ที่อุทยานมาไซมาร่า
สิงโต ที่อุทยานมาไซมาร่า
สิงโต ที่อุทยานมาไซมาร่า
สิงโต ที่อุทยานมาไซมาร่า

จากนั้นเราก็เดินทางกลับไปยังที่พักเพื่อกลับไปทานมื้อเที่ยงและพักผ่อนก่อนจะออกมา Game Drive อีกครั้งในตอนสี่โมงเย็น การเดินทางไปที่แคมป์ที่พักต้องขับผ่านแม่น้ำมาร่าทุกครั้ง ระหว่างการเดินทางไปที่พักก็ได้มาเจอกับฝูงยีราฟ ซึ่งยืนอยู่ใกล้แม่น้ำ เลยหยุดดูฝูงยีราฟ ก่อนจะออกเดินทางต่อและมาเจอกับฝูงช้างหากินอยู่ในป่า ช้างตัวนึงเมื่อเห็นรถขับผ่านมาใกล้ก็ทำท่าจะกระโจนมาที่รถ แต่เพราะ Ranger มีประสบการณ์จึงขับผ่านไปได้โดยที่ไม่ได้รับอันตรายอะไรเกิดขึ้น เมื่อขับผ่านแม่น้ำมาร่าก็จะได้เจอกับฝูงฮิปโปที่อาศัยอยู่ในน้ำในตอนกลางวัน ฮิปโปเป็นสัตว์บกที่อันตราย มีนิสัยฉุนเฉียวและดุร้าย แต่โชคดีที่ตอนกลางวันฮิปโปจะอยู่แต่ในน้ำเท่านั้น และฮิปโปจะขึ้นมาบนบกในช่วงที่ค่ำแล้วเพื่อขึ้นมาหาอาหาร

อุทยานมาไซมาร่า
ยีราฟ ที่พบในอุทยานมาไซมาร่า
ช้าง ที่พบในอุทยานมาไซมาร่า

การขับผ่านสัตว์ป่า ต้องดูจังหวะที่ปลอดภัยทุกครั้ง ห้ามขับไปใกล้เหล่าสัตว์ป่าเด็ดขาด เพราะจะเกิดอันตรายได้

ฮิปโป ทีแม่น้ำมาร่า ในอุทยานมาไซมาร่า

ออกมาทำ Game Drive อีกครั้งในช่วงสี่โมงเย็น รอบนี้ก็ขับผ่านแม่น้ำมาร่าอีกครั้งและก็เจอฝูงฮิปโป จากนั้นก็มาเจอกับยีราฟยืนหากินอยู่ตามลำพัง

ยีราฟ ที่พบในอุทยานมาไซมาร่า
ยีราฟ ที่พบในอุทยานมาไซมาร่า

เหล่าสัตว์ที่หน้าตาเหมือนเก้ง กวาง จะพบอยู่ได้ทั่วไปในอุทยานมาไซมาร่า เพราะมีอยู่จำนวนเยอะมาก

เก้งกวาง ที่พบในอุทยานมาไซมาร่า
เก้ง กวาง ที่พบในอุทยานมาไซมาร่า

ในช่วงรอบเย็นของวันนี้ไม่ได้เจอสัตว์ป่ามากเท่าไรนัก เมื่อพระอาทิตย์ตกดินจึงเดินทางกลับที่พัก และมาหยุดดูพระอาทิตย์ตกดินที่แม่น้ำมาร่า พร้อมดูฝูงฮิปโปที่มารวมตัวกันจำนวนมากเพื่อรอเวลาที่จะขึ้นไปบนฝั่ง พระอาทิตย์ตกดินที่แม่น้ำมาร่าในวันนี้นั้นแสงพระอาทิตย์กระทบน้ำนั้นทำให้บรรยากาศสวยงามมากจริงๆ และจบทริปของวันนี้ด้วยการชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่แม่น้ำมาร่า

พระอาทิตย์ตกดินที่แม่น้ำมาร่า อุทยานมาไซมาร่า

Author : Chalongrat C.

นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT เที่ยวตลาดน้ำในกรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี ที่ตลาดน้ำสองคลอง (Songklong floating market)

ตลาดน้ำสองคลองตั้งอยู่ในเขตตลิ่งชัน ฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร เลขที่ 111 วัดตลิ่งชัน 300 ถนน ชักพระ แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170 ตั้งอยู่ในวัดตลิ่งชัน ซึ่งอยู่ใกล้กับตลาดน้ำตลิ่งชันระยะทางห่างกันประมาณ 300 เมตร เปิดทุกวันเสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.00 – 17.00 น.

ตลาดน้ำสองคลองเป็นตลาดน้ำขนาดเล็กที่มีบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย ไม่แออัด มีที่นั่งสำหรับนั่งทานอาหาร แบ่งออกเป็นสามโซน ในรูปอาคารตัว L อยู่ริมฝั่งคลอง ท้ายวัดตลิ่งชัน ตลาดน้ำสองคลองตั้งอยู่ระหว่างคลองสองคลองเชื่อมต่อกันคือ คลองชักพระ และคลองตลิ่งชัน

การเดินทางมาที่ตลาดน้ำสองคลองด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT

วิธีเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT มาที่ตลาดน้ำสองคลองเป็นวิธีเดินทางที่ง่ายและสะดวกมากเนื่องจากในทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ทางกรุงเทพฯ ได้จัดให้มีรถบัสไฟฟ้าไว้คอยให้บริการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางไปตลาดน้ำได้ฟรี ตั้งแต่เวลา 9.30 – 16.30 น.ที่สถานีบางขุนนนท์ หรือหากจะใช้บริการรถสองแถวประจำทางก็สะดวกเช่นกันเพราะมีรถสองแถวผ่านสถานีบางขุนนนท์ตลอด และจอดส่งที่หน้าวัดตลิ่งชัน มีค่ารถราคาเพียงแค่ 8 บาทเท่านั้น

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT นั่งสายสีน้ำเงิน มาลงที่สถานีบางขุนนนท์ ให้เลือกออกทางออกที่ 2

ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ
ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ
ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ
ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ
ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ
ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ

รถบัสไฟฟ้าจะใช้เวลามาที่สถานีบางขุนนนท์รอต่อรอบประมาณ 20-30 นาที และหากไม่ต้องการรอรถบัสไฟฟ้าสามารถนั่งรถสองแถวสีแดงเขียวที่สถานีบางขุนนนท์ ไปที่วัดตลิ่งชันเพื่อไปตลาดน้ำสองคลอง มีค่ารถราคา 8 บาท ก็มาถึงตลาดน้ำสองคลองในเวลาประมาณ10 นาทีเท่านั้น ยืนรอรถสองแถวสีแดงแถบเขียวที่จุดเดียวกับรอรถบัสไฟฟ้า

ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ

ขึ้นรถสองแถวสีแดงแถบเขียวเท่านั้น ถ้าหากไม่มั่นใจก็ให้ถามคนขับรถดูก่อนว่าผ่านตลาดน้ำสองคลองรึป่าว

ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ

มาลงรถที่หน้าวัดตลิ่งชัน วัดจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ตลาดน้ำสองคลองจะอยู่ภายในวัดตลิ่งชัน เดินเข้าไปด้านในก็จะเจอตลาด

ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ
ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ
ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ

บรรยากาศภายในตลาดน้ำสองคลองโปร่งโล่งสบาย มีที่นั่งพักติดริมแม่น้ำบรรยากาศดี

ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ
ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ
ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ
ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ

ตลาดน้ำตลิ่งชันมองเห็นได้จากตลาดน้ำสองคลอง ตั้งอยู่ไม่ไกลกัน

ตลาดน้ำสองคลอง กรุงเทพฯ

นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ไปเที่ยวเที่ยวตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาดน้ำในกรุงเทพฯ One day trip (Taling Chan Floating Market)

ตลาดน้ำตลิ่งชันเป็นตลาดน้ำที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี และสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ง่ายๆ โดยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT โดยเลือกมาลงที่สถานีบางขุนนนท์ ทางออกที่ 2 ตลาดน้ำตลิ่งชันเปิดทำการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น ตั้งอยู่บริเวณหน้าสำนักงานเขตตลิ่งชัน เลขที่ 333 ถนนชักพระ แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170

วิธีเดินทางมาที่ตลาดน้ำตลิ่งชันโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT

การเดินทางมาที่ตลาดน้ำตลิ่งชันให้เลือกใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน มาลงที่สถานีบางขุนนนท์ (BL04) จากนั้นเลือกออกทางออกที่ 2

ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand

เมื่อลงมาจากสถานีบางขุนนนท์ทางออกที่ 2 แล้ว มีสองวิธีเดินทางง่ายๆ และประหยัด เพื่อไปที่ตลาดน้ำตลิ่งชันได้คือ ในทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะมีรถไฟฟ้าให้บริการฟรี ซึ่งเป็นบริการพิเศษของกรุงเทพมหานคร ในการให้ความสะดวกแก่ประชาชน โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่ 9.00 – 16.45 น. โดยจะมีระยะความถี่ในการรอรถต่อรอบประมาณ 20-30 นาที โดยรถจะวิ่งผ่านตลาดน้ำตลิ่งชัน ขนส่งสายใต้ตลิ่งชัน ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตลาดดอกไม้ปากคลองใหม่ และตลาดน้ำวัดสะพาน

ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand

สำหรับคนที่ไม่ต้องการเสียเวลาในการรอรถบัสไฟฟ้า แนะนำให้เลือกใช้บริการรถสองแถวสีแดงเขียว ซึ่งรอไม่นานและมีรถผ่านมาตลอดและเสียค่าบริการเพียง 8 บาทเท่านั้น ไปที่ตลาดน้ำตลิ่งชัน จากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางขุนนนท์ไปที่ตลาดน้ำตลิ่งชันจะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ไปถึง แต่หากไม่มั่นใจว่าขึ้นรถถูกคันมั้ยแนะนำให้สอบถามคนขับรถก่อนขึ้น เพราะจะมีรถคันสีแดงที่ไม่ได้ผ่านตลาดน้ำตลิ่งชันด้วย จากสถานีบางขุนนนท์รถสองแถวสีแดงเขียวขับมาถึงไฟแดง จะเลี้ยวซ้าย และจะผ่านสถานที่สำคัญหลายที่ด้วยกันเช่น วัดเจ้าอาม สำนักงานการยางแห่งประเทศไทย และเมื่อถึงแยกชักพระ จะเลี้ยวซ้ายและขับตรงไป จนเห็นวัดตลิ่งชันให้เตรียมตัวลง โดยตลาดน้ำตลิ่งชันจะอยู่ใกล้กับสำนักงานเขตตลิ่งชัน ลงก่อนถึงแยกข้างหน้า

ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand

ในตลาดน้ำตลิ่งชันนอกจากมีอาหารหลากหลายให้เลือกซื้อในราคาย่อมเยาว์แล้ว ก็ยังมีการแสดงของชาวชุมชนให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย และหากต้องการนั่งเรือชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมแม่น้ำก็มีให้บริการเช่นกัน สามารถสอบถามข้อมูลกับประชาสัมพันธ์ในตลาดได้

ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand
ตลาดน้ำตลิ่งชัน-Taling Chan Floating Market Bangkok Thailand

35 คำศัพท์ภาษาสวาฮีลี (swahili) ควรรู้ก่อนไปเที่ยวเคนยา Kenya Africa

เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ ถ้าได้รู้คำศัพท์เบื้องต้นของประเทศที่ไปเที่ยว จะทำให้เพิ่มความสนุกในการท่องเที่ยวได้มากขึ้น และทำให้คนท้องถิ่นรู้สึกประทับใจที่นักท่องเที่ยวสามารถพูดภาษาท้องถิ่นของประเทศตัวเองได้

ประเทศเคนยา เป็นประเทศนึงที่มีภาษาประจำถิ่นเป็นของตนเองคือ ภาษาสวาฮีลี ซึ่งเป็นภาษาประจำชาติ และมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ

ภาษาสวาฮีลี เป็นภาษาประจำชาติของประเทศเคนยา แทนซาเนีย ยูกันดา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) และยังใช้เป็นภาษากลางในแอฟริกาตะวันออก

เคนยา มีชื่อทางการคือ สาธารณรัฐเคนยา เป็นประเทศในแอฟริกาตะวันออก มีอาณาเขตติดกับประเทศเอธิโอเปีย ประเทศโซมาเลีย ประเทศแทนซาเนีย ประเทศยูกันดา ประเทศเซาท์ซูดาน ทะเลสาบวิกตอเรีย และมหาสมุทรอินเดีย มีเมืองหลวงคือ ไนโรบี เป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอุทยานที่โดดเด่นในเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ป่า

ภาษาสวาฮีลี (swahili) เคนยา

35 ประโยคพื้นฐานภาษาสวาฮีลีที่ควรรู้เมื่อมาเที่ยวประเทศเคนยา

  1. สวัสดี (Hello) ภาษาสวาฮีลี คือ Jambo
  2. สบายดีมั้ย (How are you?) ภาษาสวาฮีลี คือ Habari gani?
  3. ดี (Good) ภาษาสวาฮีลี คือ Nzuri
  4. ไม่ดี (Bad) ภาษาสวาฮีลี คือ Mbaya
  5. ขอบคุณ (Thank you) ภาษาสวาฮีลี คือ Asante
  6. ได้โปรด (Please) ภาษาสวาฮีลี คือ Tafadhali
  7. ลาก่อน (Goodbye) ภาษาสวาฮีลี คือ Kwaheri
  8. ยินดี, ยินดีต้อนรับ (Welcome) ภาษาสวาฮีลี คือ Karibu
  9. ขอโทษ (Sorry) ภาษาสวาฮีลี คือ Samahani
  10. เพื่อน (Friend) ภาษาสวาฮีลี คือ Rafiki
  11. ขออนุญาต (Excuse me) ภาษาสวาฮีลี คือ Nisamehe
  12. กาแฟ (Coffee) ภาษาสวาฮีลี คือ Kahawa
  13. เพียงพอ (Enough) ภาษาสวาฮีลี คือ Inatosha / basi
  14. ร้านค้า (Shop) ภาษาสวาฮีลี คือ Duka
  15. สวย (Beautiful) ภาษาสวาฮีลี คือ Nzuri / Mzuri
  16. เท่าไหร่ (How much) ภาษาสวาฮีลี คือ Bei gani
  17. แพง (Expensive) ภาษาสวาฮีลี คือ Ghali
  18. ตลาด (Market) ภาษาสวาฮีลี คือ Soko / Gulio
  19. มัสยิด (Mosque) ภาษาสวาฮีลี คือ Msikiti
  20. คริสตจักร (Church) ภาษาสวาฮีลี คือ Kanisa
  21. ดีมาก (Very good) ภาษาสวาฮีลี คือ Vizuri Sana
  22. ช้า (Slowly) ภาษาสวาฮีลี คือ Pole Pole
  23. อายุยืน (Long life) ภาษาสวาฮีลี คือ Maisha marefu
  24. ราตรีสวัสดิ์ (Goodnight) ภาษาสวาฮีลี คือ Lala salama
  25. ไม่มีปัญหา (No problem) ภาษาสวาฮีลี คือ Hakuna Matata
  26. สิงโต (Lion) ภาษาสวาฮีลี คือ Simba
  27. ช้าง (Elephant) ภาษาสวาฮีลี คือ Tembo
  28. เสือดาว (Leopard) ภาษาสวาฮีลี คือ Chui
  29. เสือชีตาห์ (Cheetah) ภาษาสวาฮีลี คือ Duma
  30. ม้าลาย (Zebra) ภาษาสวาฮีลี คือ Punda-Milia
  31. ควาย (Buffalo) ภาษาสวาฮีลี คือ Mbogo / Nyati
  32. แรด (Rhinoceros) ภาษาสวาฮีลี คือ Kifaru
  33. ยีราฟ (Giraffe) ภาษาสวาฮีลี คือ Twiga
  34. นกกระจอกเทศ (Ostrich) ภาษาสวาฮีลี คือ Mbuni
  35. ลิงชิมแพนซี (Chimpanzee) ภาษาสวาฮีลี คือ Sokwe-MTU
ภาษาสวาฮีลี (swahili) เคนยา