ในการมาซาฟารี Game Drive ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า Masai Mara นั้นสามารถมาได้ทุกช่วงฤดู แต่ช่วงไฮซีซั่นนั้นทุกอย่างจะแพงกว่าราคาปกติเกือบสองเท่า เรามาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า Masai Mara ในช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นเดือนก่อนหน้าช่วงไฮซีซั่น ช่วงหน้าไฮซีซั่นหรือเรียกอีกอย่างว่า Great Migration จะเป็นในช่วงเดือน กรกฏาคม สิงหาคม ซึ่งเป็นฤดูกาลอพยพของฝูงวิลเดอบีสต์ Wildebeest และฝูงม้าลาย นับล้านๆ ตัว เพื่อมาหากินที่ทุ่งหญ้าสะวันน่า ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวและช่างภาพจำนวนมากต่างมารอดู

คลิปวีดีโอ YouTube EP.2/5 ท่องซาฟารี สำรวจโลกสัตว์ป่าที่มาไซมาร่า ไปเยือนเขตแดนเคนยาแทนซาเนีย https://youtu.be/8t_0AVErBuc

ในช่วงเดือนมิถุนายน ที่เราไปเที่ยวนั้นทุ่งหญ้าสะวันน่ากำลังอุดมสมบูรณ์ด้วยหญ้าเขียวขจี ช่วงเดือนนี้เป็นช่วงฤดูหนาว อากาศจะหนาวมากในตอนกลางคืน และในตอนเช้าไปจนถึงสิบโมงเช้า หลังจากนั้นอากาศก็จะเริ่มอุ่นขึ้น และจะเริ่มร้อนมากในช่วงเที่ยงไปจนถึงห้าโมงเย็น แต่ถ้าอยู่ในที่ร่มอากาศก็ไม่ได้ร้อนมาก มีลมเย็นๆ พัดสบาย

เช้าวันที่ 2 วันนี้นัดกับ Ranger (Ranger ของเราชื่อ Amos) ไปออกซาฟารี Game Drive ตั้งแต่ 7 โมงเช้า โดยทาง Ranger จะแจ้งกับทางโรงแรมให้เตรีมอาหารสำหรับมื้อเช้าไว้ให้ สำหรับออก Game Drive โดยมื้อเช้าวันนี้จะเป็นการทานอาหารมื้อเช้าใต้ต้นไม้กลางทุ่งหญ้าสะวันน่า

ในการออกมาทำ Game Drive ในแต่ละวันไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเจอกับสัตว์อะไรบ้างเพราะเป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ ในเช้าวันนี้อากาศหนาวประมาณ 13 องศา แต่รู้สึกหนาวมากเพราะนั่งรถแล้วลมพัดมาตลอดเวลา ต้องใส่เสื้อกันหนาว

เช้าวันนี้ได้เจอกับบอลลูนที่พานักท่องเที่ยวขึ้นชมวิวในมุมสูง

เช้าวันนี้ก็ได้มาเจอกับฮิปโป ซึ่งขึ้นมากินหญ้าอยู่บนบน อาจจะเพราะยังไม่มีแสงแดด ฮิปโปเลยยังไม่ลงไปแช่น้ำ จริงๆ แล้วฮิปโปเป็นสัตว์บกที่ชอบอาศัยอยู่ในน้ำในตอนกลางวันเพราะมีผิวที่บางไม่สามารถทนต่อแสงแดดได้

จากนั้นก็นั่งรถทำ Game Drive ส่องสัตว์กันต่อ ระหว่างทางก็เจอฝูงช้างฝูงใหญ่ จากนั้นก็มาเจอกับสิงโตตัวเมียนอนอาบแสงแดดตอนเช้าอยู่สองตัว สิงโตตัวเมียจะสังเกตได้ว่าไม่มีขนยาวเป็นแผงรอบคอเหมือนสิงโตตัวผู้

และก็มาเจอกับครอบครัวเสือชีตาห์อยู่รวมกันสามตัวนั่งอยู่บนโขดหินกลางทุ่งหญ้า ระหว่างที่เฝ้ามองพฤติกรรมของเสือชีตาห์ก็มีโอกาสได้เห็นเหตุการณ์ที่เสือชีตาห์วิ่งไล่จับกระต่ายเป็นอาหาร เสือชีตาห์จัดเป็นสัตว์บกที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก ความเร็วสูงสุดในการวิ่งประมาณ 110-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

หลังจากดูพฤติกรรมของเสือชีตาห์เสร็จแล้ว Amos ก็พาเราไปทานอาหารเช้าที่ใต้ต้นไม้ อาหารเช้าที่ทางโรงแรมจัดมาให้มีปริมาณเยอะ มีชา กาแฟ อาหาร ขนมปัง ผลไม้ ช๊อคโกแลต ฯลฯ

ระหว่างการเดินทางหลังจากทานมื้อเช้าเสร็จแล้ว เราแจ้งกับ Amos ว่าต้องการเข้าห้องน้ำ และเป็นความโชคดีที่บริเวณที่พวกเราขับรถอยู่นั้น อยู่ใกล้ลานจอดเครื่องบินขนาดเล็กที่ไว้สำหรับรับส่งนักท่องเที่ยว Amos จึงพาเราไปเข้าห้องน้ำที่ลานจอดเครื่องบิน ซึ่งโดยปกติแล้วที่ทุ่งหญ้าสะวันน่า จะไม่มีห้องน้ำ ถ้าหากต้องการเข้าห้องน้ำต้องหาที่กลางแจ้งสำหรับทำกิจธุระ เช่นหลังรถ หรือ หลังต้นไม้ ในที่ที่ปลอดภัย

หลังจากเข้าห้องน้ำที่ลานจอดเครื่องบินเสร็จแล้ว วันนี้ Amos จะพาเราไปยังจุดเขตแดนระหว่างประเทศเคนยาและประเทศแทนซาเนีย ซึ่งอยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า และ อุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ ประเทศแทนซาเนีย สำหรับประเทศเคนยา คนเคนยาจะเรียกประเทศตัวเองว่าแคนเนีย

ตรงเขตแดนของประเทศเคนยาและประเทศแทนซาเนีย เป็นที่ราบติดต่อกัน มีเพียงหลักแดนที่แสดงว่าฝั่งไหนเป็นฝั่งของประเทศเคนยา และฝั่งไหนเป็นฝั่งของประเทศแทนซาเนีย จากนั้นเราก็เดินทางกลับไปยังที่พัก ระหว่างทางก็ได้มาเจอกับเสือชีตาห์อีกคู่นึงกำลังเดินอยู่กลางทุ่งหญ้า ใกล้ๆบริเวณที่เสือชีตาห์อยู่นั้นมีการเผาหญ้าที่แห้งแล้ว ทำให้เกิดควันไฟปกครุมทั่วบริเวณ การเผาหญ้าที่แห้งแล้วนั้นเป็นเพราะต้องการให้หญ้าได้ขึ้นมาใหม่อีกครั้งหลังจากฝนตก

เสือชีตาห์เป็นสัตว์บกในสายพันธ์นักล่า จัดอยู่ในสายพันธุ์ของเสือและแมว แต่ไม่สามารถส่งเสียงคำรามได้ ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ

จากนั้นเราก็กลับมาทานอาหารมื้อเที่ยงและพักผ่อนที่โรงแรม นัดกับ Ranger ออกไป Game Drive อีกครั้งในช่วงสี่โมงเย็น

ในการทำ Game Drive ในรอบเย็นวันนี้ ในระหว่างทางก็มาเจอกับฝูงช้างอีก ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า Big5 ที่พบเจอง่ายที่สุดก็่คือช้าง และ ควายป่า เพราะมีอยู่จำนวนเยอะมากจริงๆ

จากนั้นในกลุ่มของ Ranger ด้วยกันก็แจ้งมายัง Amos ให้ไปยังจุดที่พบแรด ซึ่งเป็นสัตว์ Big5 ที่หาเจอได้ยากมากที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า เพราะเนื่องจากในอดีตมีการล่าแรดเป็นจำนวนมากทำให้จำนวนแรดที่มีอยู่ในปัจจุบันมีจำนวนน้อยลงมากๆ แรดเป็นสัตว์สงวนมากที่สุดในอุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า ห้ามเข้าไปใกล้เป็นอันขาด ดูได้จากระยะไกลเท่านั้น

ช่วงที่เจอแรดนั้นหมอกควันเริ่มลอยมาปกครุมหนาแน่นมากขึ้นทั่วบริเวณ

ในระหว่างขับรถทำ Game Drive ก็ได้มาเจอฝูงช้างอีกในช่วงพระอาทิตย์ตกดินของวันนี้ พระอาทิตย์ตกดินมีสีแดงก่ำ เนื่องจากหมอกควันที่เกิดจากการเผาหญ้า

ระหว่างที่กำลังจะเดินทางกลับที่พักก็ได้มาเจอกับฝูงสิงโตแม่ลูกฝูงใหญ่ เดินลัดเลาะอยู่กลางทุ่งหญ้า และจบการทำ Game Drive ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า Masai Mara Kenya ของวันนี้ด้วยการดูพฤติกรรมของฝูงสิงโต และก็กลับไปทานอาหารมื้อเย็นและพักผ่อนที่โรงแรม

หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกับซาฟารี เพราะในเมืองไทยเองก็มีการจำลองสวนสัตว์ในรูปแบบซาฟารีเปิดอยู่หลายที่เช่นกัน แต่สำหรับซาฟารีจริงๆ แล้วนั้นมีอยู่หลายที่ทั่วโลก และอุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า (Masai Mara) ประเทศเคนยา ก็เป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับมาซาฟารีส่องสัตว์ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 1,510 ตารางกิโลเมตร

คลิปวีดีโอ YouTube EP.1/5 ท่องซาฟารี สำรวจโลกสัตว์ป่าที่มาไซมาร่า วันแรกในดินแดนทุ่งหญ้าสะวันน่า https://youtu.be/5EaSvlJopp4

สถานที่สำหรับไปซาฟารีส่องสัตว์ทั่วโลก ได้แก่

• อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ประเทศแอฟริกาใต้ (Kruger National Park, South Africa)

• อุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ ประเทศแทนซาเนีย (The Serengeti, Tanzania)

• เขตอนุรักษ์สัตว์ป่าโกรอนโกโร ประเทศแทนซาเนีย (Ngorongoro Conservation Area, Tanzania)

• อุทยานแห่งชาติมาไซ มาร่า ประเทศเคนยา (Masai Mara National Reserve, Kenya)

• อุทยานแห่งชาติ Etosha ประเทศนามิเบีย (Etosha National Park, Namibia)

• ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอกาวันโก ประเทศบอตสวานา (The Okavango Delta, Botswana)

• อุทยานแห่งชาติเฮมิส ประเทศอินเดีย (The Hemis National Park, India)

• หมู่เกาะกาลาปากอส ประเทศเอกวาดอร์ (The Galapagos Islands, Ecuador)

• ป่าฝนเขตร้อนเเห่งเกาะบอร์เนียว หมู่เกาะบอร์เนียว (Borneo Rainforest, Borneo)

• อุทยานแห่งชาติทอร์ทูเคโร ประเทศคอสตาริกา (Tortuguero National Park, Costa Rica)

• ทวีปแอนตาร์กติกา (Antarctica)

สำหรับทริปนี้เราได้มาเที่ยวที่ประเทศเคนยาเป็นเวลา 10 วัน แต่จะไปเที่ยวซาฟารี ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า (Masai Mara) เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน สำหรับนักท่องเที่ยวสัญชาติไทยต้องขอวีซ่าสำหรับเข้าประเทศเคนยา ซึ่งสามารถขอผ่าน evisa ได้ที่ https://evisa.go.ke/ มีค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่า 51USD และต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้เหลือง เนื่องจากการเดินทางไปยังประเทศเคนยา มีบางเขตที่มีการระบาดของโรคไข้เหลืองอยู่ จึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันไว้ก่อน สามารถไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้เหลืองได้ที่สถานเสาวภา สภากาชาดไทย หรือตามสถานพยาบาลที่ให้บริการ

เราออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย เวลาประมาณตีสามในตอนเช้าตรู่ ใช้บริการบินกับสายการบินเอมิเรตส์ ซึ่งต้องไปต่อเครื่องที่สนามบินดูไบ จากกรุงเทพฯ บินไปดูไบใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง 10 นาที และรอต่อเครื่องที่ดูไบอีก 4 ชั่วโมง และออกเดินทางจากสนามบินดูไบ บินไปยังสนามบินโจโมเคนยัตตา เมืองไนโรบี ใช้เวลาอีกประมาณ 5 ชั่วโมง มาถึงเมืองไนโรบีประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆ

การเดินทางมาที่ประเทศเคนยา เพื่อไปซาฟารีที่มาไซมาร่า (Masai Mara) นั้นต้องมาลงเครื่องที่สนามบินโจโมเคนยัตตา(JKIA) ที่เมืองไนโรบี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเคนยา การเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อไปที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า (Masai Mara) ต้องใช้บริการทัวร์ไม่สามารถขับรถเข้าไปเที่ยวด้วยตัวเองได้ เนื่องจากเพื่อความปลอดภัย เพราะเป็นพื้นที่สำหรับสัตว์ป่า สามารถเลือกใช้บริการเครื่องบินขนาดเล็ก หรือนั่งรถจากเมืองไนโรบีเดินทางไปที่อุทยานแห่งชาติได้ สำหรับการเดินทางโดยรถยนต์จากเมืองไนโรบีไปยังอุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า (Masai Mara) นั้นจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง โดยเส้นทางเป็นถนนเลนเดียว วิ่งผ่านภูเขา สลับกับที่ราบ

อากาศในช่วงที่เรามาเที่ยวที่เคนยาในเดือนมิถุนายนนั้น เป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศเคนยา อากาศในช่วงเช้าจนถึงเที่ยงจะอยู่ที่ 13-20 องศา อากาศเย็นสบาย และอากาศจะร้อนมากในช่วงเที่ยงไปจนถึงห้าโมงเย็น สำหรับในตอนกลางคืนอากาศหนาวอยู่ที่ประมาณ 10-15 องศา

เราใช้บริการทัวร์ของบริษัท Mara Serenity Safaris ซึ่งเป็นทัวร์คนท้องถิ่นประเทศเคนยา โดยเราติดต่อผ่านอินบ๊อกซ์ของ IG: myendlesafari ให้เป็นคนจัดการทริปให้

พื้นที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า (Masai Mara)นั้น ตั้งอยู่ในเขต Narok County เราเดินทางออกจากเมืองไนโรบี โดยรถตู้ส่วนตัว และไปเปลี่ยนเป็นรถโตโยต้า แลนด์ครุยเซอร์ เมื่อไปถึงที่ด่านทางเข้าอุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า

สิ่งที่จำเป็นที่ต้องเตรียมมาเมื่อมาซาฟารี ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า (Masai Mara) ในช่วงฤดูหนาว คือ เสื้อผ้ากันหนาว ถุงมือ หมวก แว่นกันแดด ผ้าปิดจมูก หรือผ้าพันคอก็ได้ สำหรับกันฝุ่น เพราะฝุ่นจะเยอะในระหว่างการเดินทางทำ Game Drive เนื่องจากถนนเป็นถนนดิน

DAY 1

การมาส่องสัตว์ที่นี่จะเรียกว่า ซาฟารี และเรียกว่าการออก Game Drive ซึ่งก็คือการขับรถเพื่อไปดูสัตว์ป่า ในการมาซาฟารี จะมี Ranger ประจำทริป ซึ่งเป็นทั้งคนขับรถและไกด์

Ranger จะเป็นคนพาเราไปส่องสัตว์ในที่ต่างๆ 2 รอบต่อวันด้วยกันคือช่วงเช้าประมาณ 6-7 โมงเช้า หรือแล้วแต่ตกลงกับ Ranger และอีกรอบคือช่วงบ่ายประมาณ 4 โมงเย็น และในช่วงกลางวันถึงบ่าย 4 โมงเย็นจะกลับมาพักผ่อนที่โรงแรมที่พัก เพราะเป็นช่วงที่อากาศร้อนและเหล่าสัตว์ต่างๆ จะหลบแดดในที่ร่มทำให้หาดูสัตว์ได้ยาก จึงไม่เหมาะกับการทำ Game Drive ในเวลาดังกล่าว

เนื่องจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่ามีพื้นที่กว้างใหญ่มากในการไปส่องสัตว์ป่า เหล่า Ranger จึงต้องมีการติดต่อกันตลอดในระหว่าง Game Drive เพื่อคอยแจ้งให้ทราบว่าเจอพวกสัตว์หาดูได้ยากที่ไหนบ้าง เช่น สิงโต เสือดาว ชีตาห์ แรด ฯลฯ

การมาทำ Game Drive ซาฟารี ที่อุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า (Masai Mara) นั้น สัตว์ที่ต้องมาให้เจอจะเรียกว่า Big5 ซึ่งก็คือ สิงโต เสือดาว ช้างแอฟริกา แรด และควายป่าแอฟริกา

สัตว์ที่เจอระหว่างเส้นทางจากด่านทางเข้าเดินทางไปยังที่พัก

เมื่อเราเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติมาไซมาร่า (Masai Mara) Ranger ก็จะพาทำ Game Drive ในระหว่างการเดินทางก่อนไปถึงที่พัก ในระหว่างเส้นทางก็จะเจอสัตว์หลากหลายชนิด เช่น ม้าลาย ยีราฟ ควายป่า ช้าง เก้ง กวาง นกกระจอกเทศ สิงโต เสือชีตาห์

สิงโตเมื่อเห็นรถจอดอยู่จะเดินมานั่งอยู่ข้างๆรถ เพื่อมาหลบแดด

เรามาถึงที่พักในช่วงเที่ยงกว่า ๆ ที่พักของเราใน 2 คืนแรก ชื่อ Mara Serena Safari Lodge ซึ่งโรงแรมนี้ตั้งอยู่บนภูเขา สามารถมองเห็นวิวของทุ่งหญ้าสะวันน่าได้ 360 องศา เราเข้าไปเก็บของที่ห้องพักและออกมาทานอาหารมื้อเที่ยง ในการมาทัวร์ซาฟารีราคาที่จ่ายจะครอบครุมทุกอย่างแล้ว คือรวมค่าโรงแรม ค่าอาหาร 3 มื้อ แต่ไม่รวมเครื่องดื่ม รวมค่าทัวร์กับ Ranger แต่จะมีทิปต่างหากให้ Ranger ในแต่ละวันด้วย

ด้านหน้าทางเข้าโรงแรม Mara Serena Safari Lodge

บริเวณทางเดินภายในโรงแรมไปยังห้องพัก

ภายในห้องพักมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันเหมือนโรงแรมทั่วไป ตกแต่งไว้อย่างสวยงามและสะอาดสะอ้าน

วิวจากห้องพัก จะมองเห็นทุ่งหญ้าสะวันน่า ระหว่างที่ไม่อยู่ห้องต้องปิดประตูให้มิดชิดทุกครั้ง เพราะไม่ฉะนั้นจะมีสัตว์เข้ามารื้อของได้ เนื่องจากโรงแรมเปิดโล่งบนภูเขากลางทุ่งหญ้าสะวันน่า

Ranger จะมารับเราไปทำ Game Drive อีกครั้งในช่วง 4 โมงเย็น และทำ Game Drive ไปจนถึง 1 ทุ่ม ในรอบเย็นของวันนี้ก็ได้มาเจอกับไฮยีน่า และฝูงแร้งที่กำลังกินซากสัตว์อยู่กลางทุ่งหญ้า จากนั้นก็มาเจอฝูงควายป่าฝูงใหญ่มาก และ Ranger ก็ส่งสัญญาณให้กัน ไปดูฝูงสิงโตซึ่งกำลังนอนพักอยู่

ระหว่างการเดินทางจะเจอฝูงควายป่าฝูงใหญ่อยู่กลางทุ่งหญ้า

มาเจอฝูงสิงโตฝูงแรกกำลังนอน

ขับรถมาเรื่อยๆ ก็มาเจอสิงโตตัวเมียนอนอยู่กลางทุ่งหญ้าอีกสองตัว

และก็มาเจอสิงโตตัวผู้นอนหลับอยู่กลางทุ่งหญ้า

จากนั้น Ranger พาไปที่แม่น้ำมาร่า Mara River ก็ได้เจฝูงฮิปโปที่อยู่ในน้ำ

ระหว่างเดินทางกลับไปที่พักก็มาเจอฝูงควายฝูงเดิมอีกครั้ง

จบการทำ Game Drive ในวันแรกด้วยวิวพระอาทิตย์ตกดินกลางทุ่งหญ้าสะวันน่า ในการทำ Game Drive ต้องกลับไปที่พักก่อนหนึ่งทุ่ม เพื่อความปลอดภัย